• แอปพลิเคชัน
  • เกม
  • Tips & Tricks
  • โปรโมชัน
StepGeek
  • หน้าแรก
  • ข่าว
  • รีวิว
  • พรีวิว
  • บทความ
  • Tips & Tricks
  • ดูวิดีโอ StepGeek
No Result
View All Result
StepGeek
  • หน้าแรก
  • ข่าว
  • รีวิว
  • พรีวิว
  • บทความ
  • Tips & Tricks
  • ดูวิดีโอ StepGeek
No Result
View All Result
StepGeek
No Result
View All Result
Home บทความ

คุ้มหรือไม่…ถ้าซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่รองรับ 5G?? – แล้ว 5G แรงกว่า Wi-Fi จริงเหรอ?? ไปหาคำตอบกัน

หลายคนต่างมีคำถามเกิดขึ้นหลังจากที่ 5G เข้ามา นั้นก็คือ 5G จะแรงกว่า Wi-Fi จริงหรือไม่?? คำถามนี้ ก็มีคำตอบอยู่แล้วว่าคือ แรงกว่าในบางบริบท

Admin G by Admin G
วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2020 เวลา 06:05 น.
in บทความ
616
SHARES
1
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterLINE

ช่วงนี้มีแต่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมาพร้อมกับรองรับเครือข่าย 5G ซะส่วนใหญ่ บางคนก็ว้าว บางคนก็เฉยๆ ซึ่งหลังจบจากการประมูลไป ทำให้กระแสของ 5G นั้นแตกตื่นและตื่นตัวกันมากขึ้น เพราะมันจะไม่ใช่แค่ระบบเครือข่ายบนสมาร์ทโฟนแล้ว แต่จะเป็นการถูกใช้งานอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารหรือคำสั่งทางไกลอย่างไร้ความหน่วง อย่างเช่น การควบคุมรถยนต์แบบไร้คนขับ ซึ่งก็นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใครหลายคนต้องรู้จักอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้บอกเลยว่า ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลนะ บางคนก็เฉยๆ กับเทคโนโลยีกับบางคนต้องทันตามเทคโนโลยี 5G คือต้องไปให้สุด เทคโนโลยีสุดเท่าไหนต้องตามไปให้สุดเท่านั้น

ประโยชน์ของ 5G

ก่อนอื่นต้องบอกถึงความสำคัญของเทคโนโลยีเครือข่ายสัญญาณสมาร์ทโฟนมือถือรุ่นที่ 5 หรือ 5G กันก่อนเลยว่าได้กลายมาเป็นประเด็นทอร์กออฟเดอะทาวน์ในปัจจุบัน เพราะเนื่องจากมีคุณสมบัติการรับส่งสัญญาณที่จะทวีความเร็วขึ้นกว่า 4G แบบไม่เห็นฝุ่นเลย ส่งผลให้การทำงานไม่ว่าจะเป็นการอัปโหลด/ดาวน์โหลดหรือการใช้งานบนออนไลน์นั้นมีความรวดเร็วกว่าที่เคย รวมถึงยังสามารถสตรีมเนื้อหาบนออนไลน์ขนาดใหญ่และประหยัดพลังงานได้อีกด้วย เพราะโมเด็มที่อยู่ในอุปกรณ์นั้นไม่ต้องทำงานนานนั่นเอง นอกจากนี้ที่สำคัญ เครือข่าย 5G ยังสามารถรองรับปริมาณการใช้งานในพื้นที่เดียวกันได้มากกว่า 4G อีกด้วย ทำให้การใช้งานในสถานที่ที่มีผู้คนเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, สวนสาธารณะหรือไม่จะเป็นสนามกีฬาก็ตามแต่ จะยังสามารถใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด, ความเร็วไม่ลดลง และยังรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย หรือ IoT (Internet of Things) ได้อีกด้วย รวมถึงนำมาประยุกต์ใช้งานภายในบ้านแทนที่อินเทอร์เน็ตผ่านสายเคเบิลและ DSL ในอนาคต

มองย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของ 3G เมื่อปี 2543 ที่ใช้คู่กับการพัฒนาสู่ 4G และเข้ามาที่ไทยครั้งแรกเมื่อปี 2553 ก็พบว่าระยะเวลาการเกิด 3G มาสู่ 4G นั้นระยะเวลาห่างกันประมาณ 10 ปี ดังนั้นแล้ว 5G ก็ต้องเกิดขึ้นในปี 2563 นั่นก็คือปีนี้นี่เอง แต่ปรากฏว่า 5G นั้นมาเร็ววกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ในช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา เริ่มมีบริษัทโทรคมนาคมและผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) หลายค่าย เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์กับผู้บริโภคแล้ว ประเทศที่นำร่องต้นๆ ของการทดลองใช้ระบบ 5G นั่นก็คือ ประเทศเกาหลี, สวิตเซอร์แลนด์, อิตาลีและจีน หลังจากที่เปิดตัวได้ไม่นาน ก็มีหลายเหตุการณ์ที่น่าสนใจอย่างเกาหลีใต้ หลังจากที่จัดสรรคลื่นความถี่ใช้ระบบ 5G แล้วและมีการลงทุนของโอเปอเรเตอร์ 3 รายของเกาหลีใต้ เพียงเปิดใช้เครือข่าย 140 วัน ก็พบว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกว่า 2 ล้านคนและมีอีกหลายประเทศก็เริ่มหันมาใช้ 5G กันแล้ว นอกจากนี้  เอสเค เทเลคอม หนึ่งผู้ที่ให้บริการด้านระบบโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศเกาหลี มีลูกค้าประมาณ 28 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 เดือนเศษ มีลูกค้าเพิ่มเป็น 1 ล้านคน เพราะลูกค้ามาใช้บริการ 5G ในประเทศเกาหลี ที่สามารถยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อให้ได้ความเร็วสูง (อัตราการเปลี่ยนความเร็วต่อ 1 หน่วยเวลา), ความหน่วงต่ำและมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลายที่เรียกว่า IoT ได้ดีกว่ายุค 4G อยู่หลายเท่าตัว

5G แรงกว่า Wi-Fi จริงเหรอ??

และแน่นอนว่าหลายคนต่างมีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย หลังจากที่เทคโนโลยีเครือข่าย 5G เข้ามา ว่า “5G จะแรงกว่า Wi-Fi จริงหรือไม่??. คำถามนี้ ก็มีคำตอบอยู่แล้วว่าคือ แรงกว่าในบางบริบท ซึ่งถ้าหากในพื้นที่นั้นๆ มีผู้ใช้งาน Wi-Fi เป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้ความเร็วลดลง ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่การออกแบบ 5G นั้นได้ถูกพัฒนาให้มีการส่งปริมาณข้อมูลในขณะที่มีผู้ใช้งานเยอะได้ดีมากยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังจะช่วยลดความแออัดของเครือข่ายลงได้อย่างมากอีกด้วย รวมถึงยังได้รับการเชื่อมต่อที่เสถียรและรวดเร็วบนเครือข่าย 5G

นอกจากนี้ 5G นั้นยังเป็นเครือข่ายไร้สายที่พัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยี 4G (LTE) ที่จะทำให้การเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ตนั้นมีความเร็ว ความแรงและมีความเสถียรมากขึ้นกว่าเดิม สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวท์ อย่าง สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ IoT ที่ถูกพัฒนาให้ดีกว่า 4G ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่แรงขึ้นถึง 20 เท่า, การตอบสนองต่อคำสั่งที่ไวขึ้น เพราะเนื่องจากมีความหน่วงต่ำ, รองรับย่านความถี่เยอะมากและรองรับจำนวนอุปกรณ์การเชื่อมต่อในพื้นที่ได้ถึง 1 ล้านคนต่อ 1 ตารางกิโลเมตร (ที่รองรับจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า)

จะคุ้มหรือไม่…ถ้าซื้อสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G??

ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมาพร้อมกับเครือข่าย 5G ไม่ว่าจะเป็น Huawei, Xiaomi, Samsung หรือจะเป็น Nokia ก็ตามแต่ ล้วนรองรับ 5G ทั้งสิ้น บางรุ่นก็วางขายแล้วที่ประเทศไทยไปแล้ว ซึ่งหลายคนก็มีคำถามว่าจะคุ้มหรือไม่ถ้าจะซื้อสมาร์ทโฟนที่รองรับเครือข่าย 5G ที่กำลังดุเดือดอยู่ในขณะนี้ คำตอบคือ คุ้มมากเลยแหละ เพราะนอกจากสมาร์ทโฟนของเราจะได้ทั้งความแรงและความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลแล้ว ยังได้ค่าความหน่วงหรือ latency ที่ต่ำมากอีกด้วย โดยเฉลี่ยของ 4G จะอยู่ประมาณ 30-50 มิลลิวินาที (ms) ในขณะที่ 5G นั้นจะเหลือเพียง 3-5 มิลลิวินาที (ms) หรืออาจจะต่ำกว่านั้น ซึ่งทางเครือข่าย Deutsche Telekom ได้ทำการทดสอบ 5G ไปเมื่อช่วงแรกแล้วผลปรากฏว่าได้ค่าความหน่วงเพียง 3 มิลลิวินาที (ms) เท่านั้นเองจ้า และรวมไปถึงความคมชัดและคุณภาพในการรับชมวีดีโอหรือการเล่นเกมออนไลน์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสได้ถึงกับคุณภาพความคมชัดและความเร็ว แน่นอนว่าประโยชน์ของ 5G นั้นมีความหลากหลายมากมายซะเหลือเกิน ก็ถือว่าคุ้มมากสำหรับคนที่กำลังมองหาซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อยู่ ก็ควรเลือกซื้อสมาร์ทโฟนแบบรองรับ 5G ไปด้วยเลยก็ดีค่ะ ณ ตอนนี้ ก็มีสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Huawei Mate 30 Pro 5G, Samsung Galaxy S20 Ultra 5G, Xiaomi Mi 10 Pro 5G และรุ่นอื่นๆ ซึ่งหากประเทศไทยนั้นได้เปิดใช้งาน 5G อย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อว่าทางผู้จัดจำหน่ายก็อาจจะนำสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G เข้ามาวางขายมากกว่านี้อย่างแน่นอน

ชิปเซ็ตระดับกลางที่รองรับ 5G 

ส่วนเจ้าตัว CPU นั้นก็เป็นหัวใจหลักสำคัญมากสำหรับสมาร์ทโฟน จะเร็วจะแรงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ CPU เนี๊ยแหละ และงานนี้ชิปเซ็ตก็มาพร้อมกับ 5G อีกด้วย ไม่ว่าจะ Kirin 820 5G, Snapdragon 765G และ Exynos 980 ก่อนอื่นเรามาพูดถึงเจ้าตัวชิปเซ็ต Kirin 820 5G กันก่อนเลย ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร ที่ประกอบไปด้วย 1x Cortex-A76 (ด้วยความแรง 2.36GHz), 3x Cortex-A76 (ด้วยความแรง 2.22GHz) และ 4x Cortex-A55 (ด้วยความแรง 1.84GHz) ซึ่งแน่นอนว่า Kirin 820 5G นั้นจะมีประสิทธิภาพแรงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง Kirin 810 ราวๆ 27% ส่วน GPU จะใช้เป็น Mali-G57 ที่มีความแรงกว่าเดิมถึง 38%

ในขณะที่คู่แข่งสำคัญของ Kirin 820 5G นั่นก็คือชิปเซ็ต Snapdragon 765G ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม Kryo 475 ที่ 7 นาโนเมตรเหมือนกัน ที่ประกอบด้วย Cortex-A76 (ด้วยความแรง 2.4GHz) Prime Core, Cortex-A76 (ด้วยความแรง 2.2GHz) Gold Core และ Cortex-A55 (ด้วยความแรง 1.8GHz) 6 Core ส่วน GPU จะเป็น Adreno 620

ในส่วนของชิปเซ็ต Exynos 980 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมที่ประกอบด้วย 2x Cortex-A77 (ด้วยความแรง 2.2GHz) และ 6x Cortex-A55 (ด้วยความแรง 1.8GHz) ส่วน GPU จะเป็น Mali G76MP5

ในขณะที่ชิปเซ็ต MediaTek ก็มีข่าวว่ากำลังวางแผนที่จะทำชิปเซ็ตที่รองรับ 5G ออกมาขายเร็วๆ นี้ ที่มีชื่อเรียกว่า MediaTek Dimensity 1000 เป็นชิปเซ็ตที่จะวางอยู่ในรุ่นเรือธง เอาเป็นว่าเราคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าจะมีรุ่นไหนที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดและในราคาระดับกลาง รวมถึงรองรับเครือข่าย 5G กันบ้าง ยังไงต้องรอลุ้นกันอีกที

บทสรุป

มาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งเราก็ได้รู้กันแล้วว่าเทคโนโลยี 5G นั้นจะไม่ใช่เป็นเรื่องของอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้งานภายในบ้านแทนที่อินเทอร์เน็ตผ่านสายเคเบิลและ DSL ในอนาคต, รถยนต์ไร้คนขับ, การผ่าตัดได้จากระยะไกล, หุ่นยนต์จากโรงงาน ซึ่งสิ่งเหลานี้จะแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ก็ถือว่ามีความเร็วกว่าเทคโนโลยี 4G เป็นอย่างมาก รวมถึงยังช่วยให้เกิดการใช้งาน AR และ VR ในกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังสามารถอัปโหลด/ดาวน์โหลดหรือสามารถใช้งานบนออนไลน์ที่มีความรวดเร็วกว่าที่เคยและยังสามารถสตรีมเนื้อหาบนออนไลน์ขนาดใหญ่ รวมถึงประหยัดพลังงานได้อีกด้วย เห็นกันแล้วใช่มั้ยล่ะว่าประโยชน์ของ 5G นั้นเยอะแยะมากมายก่ายกองเลยทีเดียว ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องความคุ้ม แน่นอนว่าคุ้ม!!! เพราะเราจะได้สัมผัสกับความเร็วและความแรงก่อนใคร แถมราคาสมาร์ทโฟนในระดับกลางที่มาพร้อมกับ 5G นั้น ก็มีราคาที่ไม่แพงรวมถึงยังได้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Huawei, Samsung, realme, OPPO, Vivo, Honor และ Xiaomi แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับคนที่ต้องการอยากจะเล่นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับ 5G อดใจรอโปรโมชั่นกันซักหน่อย เพราะอาจจะมีทั้งลดค่าเครื่องและรายเดือน ที่เป็นโปรพ่วงมากับสมาร์ทโฟน 5G นะจ๊ะ

นำเสนอบทความโดย : StepGeek.TV

Tags: 5GnewsSmartphoneสมาร์ทโฟนสมาร์ทโฟน 5G
Share616TweetShare
Admin G

Admin G

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เตรียมเปิดตัว Xiaomi Redmi Note 11 Series ในเวอร์ชั่น Global ในวันที่ 26 มกราคม 2022
ข่าว

เตรียมเปิดตัว Xiaomi Redmi Note 11 Series ในเวอร์ชั่น Global ในวันที่ 26 มกราคม 2022

มกราคม 22, 2022
4
iPhone 14 Series มาพร้อมกับจอรีเฟรชเรท 120Hz และ RAM 6GB ทั้ง 4 รุ่นรวด
ข่าว

iPhone 14 Series มาพร้อมกับจอรีเฟรชเรท 120Hz และ RAM 6GB ทั้ง 4 รุ่นรวด

มกราคม 20, 2022
11
เปิดตัว vivo Y55 5G อย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศไต้หวัน มาพร้อมชิป Dimensity 700 และแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh
ข่าว

เปิดตัว vivo Y55 5G อย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศไต้หวัน มาพร้อมชิป Dimensity 700 และแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh

มกราคม 18, 2022
18

พรีวิว รีวิวมือถือ อุปกรณ์ไอที

รีวิว Samsung Galaxy S21 FE 5G เน้นถ่ายเซลฟี่และบอดี้บางเบา ราคาเริ่มต้น 22,900 บาท
รีวิว

รีวิว Samsung Galaxy S21 FE 5G เน้นถ่ายเซลฟี่และบอดี้บางเบา ราคาเริ่มต้น 22,900 บาท

by Admin G
มกราคม 12, 2022
55
รีวิว realme 9i ดีไซน์ทรง “Stereo Prism Design” ยัดชิป Snapdragon 680, แบตขนาดใหญ่ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33 วัตต์และใส่ลำโพงคู่รองรับ Hi-Res ขายในราคาต่ำกว่าหมื่นบาท
รีวิว

รีวิว realme 9i ดีไซน์ทรง “Stereo Prism Design” ยัดชิป Snapdragon 680, แบตขนาดใหญ่ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33 วัตต์และใส่ลำโพงคู่รองรับ Hi-Res ขายในราคาต่ำกว่าหมื่นบาท

by Admin G
มกราคม 11, 2022
38
รีวิว realme narzo 50i สมาร์ตโฟนรุ่นเล็ก แต่ที่ให้ไม่เล็กเลยทั้งแบต 5,000 mAh และขนาดจอ 6.5 นิ้ว ดีไซน์ตัวเครื่องบางเฉียบ ขายในราคา 3,999 บาท
รีวิว

รีวิว realme narzo 50i สมาร์ตโฟนรุ่นเล็ก แต่ที่ให้ไม่เล็กเลยทั้งแบต 5,000 mAh และขนาดจอ 6.5 นิ้ว ดีไซน์ตัวเครื่องบางเฉียบ ขายในราคา 3,999 บาท

by Admin G
พฤศจิกายน 12, 2021
113
รีวิว realme GT Neo2 5G ขึ้นชื่อเป็นสุดยอด Flagship Killer รุ่นใหม่ มาพร้อมจอ E4 AMOLED 120Hz, ยัดชิป SD870 5G, ลำโพงสเตอริโอคู่ดังกระหึ่มและแบต 5,000 mAh สามารถใช้งานได้ทั้งวัน ราคา 13,990 บาท
รีวิว

รีวิว realme GT Neo2 5G ขึ้นชื่อเป็นสุดยอด Flagship Killer รุ่นใหม่ มาพร้อมจอ E4 AMOLED 120Hz, ยัดชิป SD870 5G, ลำโพงสเตอริโอคู่ดังกระหึ่มและแบต 5,000 mAh สามารถใช้งานได้ทั้งวัน ราคา 13,990 บาท

by Admin G
พฤศจิกายน 10, 2021
122
รีวิว realme C25Y ยัดชิป Unisoc T618 แบตอึดใช้งานได้นาน 48 วัน กล้องชัด ดีไซน์มินิดรอป ขายราคา 5,999 บาท
รีวิว

รีวิว realme C25Y ยัดชิป Unisoc T618 แบตอึดใช้งานได้นาน 48 วัน กล้องชัด ดีไซน์มินิดรอป ขายราคา 5,999 บาท

by Admin G
พฤศจิกายน 2, 2021
36

ติดต่อเรา

www.stepgeek.net
Email : [email protected]

บทความล่าสุด

รายงานใหม่ล่าสุด Samsung Galaxy S22 Series จะเปิดตัวในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้

รายงานใหม่ล่าสุด Samsung Galaxy S22 Series จะเปิดตัวในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้

มกราคม 22, 2022
เตรียมเปิดตัว Xiaomi Redmi Note 11 Series ในเวอร์ชั่น Global ในวันที่ 26 มกราคม 2022

เตรียมเปิดตัว Xiaomi Redmi Note 11 Series ในเวอร์ชั่น Global ในวันที่ 26 มกราคม 2022

มกราคม 22, 2022
iPhone 14 Series มาพร้อมกับจอรีเฟรชเรท 120Hz และ RAM 6GB ทั้ง 4 รุ่นรวด

iPhone 14 Series มาพร้อมกับจอรีเฟรชเรท 120Hz และ RAM 6GB ทั้ง 4 รุ่นรวด

มกราคม 20, 2022

หมวดหมู่

  • Freebies
  • StepGeekTV Online
  • Tips & Tricks
  • ข่าว
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • ข่าวโปรโมชั่น
  • บทความ
  • พรีวิว
  • รีวิว
  • เกม
  • แอปพลิเคชัน
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่องาน StepGeek

© 2019 StepGeek

No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • ข่าว
  • รีวิว
  • พรีวิว
  • บทความ
  • Tips & Tricks
  • ดูวิดีโอ StepGeek

© 2019 StepGeek

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In

Add New Playlist

This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.