บัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวประชาชนทึ่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนไทยที่ทางราชการออกให้กับประชาชนผู้ที่มีสัญชาติไทยเพื่อยืนยันตัวบุคคลในการขอให้สิทธิ หรือประกอบธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐและเอกชน รวมถึงยังมีประโยชน์ในด้านการติดต่อธุรกิจและติดต่อทางราชการอีกด้วย ซึ่งทุกคนก็ทราบถึงความสำคัญของบัตรประชาชนกันอยู่แล้วล่ะ แต่ถ้าวันไหนต้องไปติดต่อภาครัฐหรือภาคเอกชน แต่ดันลืมพกบัตรประชาชนติดมาด้วย งานนี้แย่ล่ะสิ เสียทั้งเวลาและเสียอารมณ์อย่างแน่นอน ล่าสุด ทางรัฐบาลสิงคโปร์ได้เตรียมแก้ไขปัญหาและวางแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมจดจำใบหน้าแทน โดยไม่ต้องพกบัตรประชาชนอีกต่อไป
ทางรัฐบาลสิงคโปร์จะเริ่มติดตั้งกล้องและเริ่มทดลองใช้ที่หน่วยงานทางราชการก่อนในช่วงเดือนมิถุนายน เพียงแค่ยื่นหน้าให้กล้องก็จะรู้เลยทันทีว่าเราเป็นใคร ด้วยการเทียบกับภาพถ่ายใบหน้าและยืนยันตัวตนกับฐานข้อมูล ซึ่งหลังจากนี้ไปก็ไม่จำเป็นต้องพกบัตรประชาชนเหมือนเก่าอีกต่อไป แค่สแกนใบหน้าก็รู้ทุกอย่าง เทคโนโลยีแบบนี้น่าจะนำมาใช้ในเมืองไทยบ้างก็ดีนะ
ระบบจดจำใบหน้าเป็นเทคโนโลยีที่ขยายตัวสำคัญของ Smart Nation Initiative ซึ่งเริ่มทำโครงการตั้งแต่ปี 2014 ภายใต้นายกรัฐมนตรี Lee Hsien Loong และรัฐบาลก็ได้สร้างฐานข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของชาวสิงคโปร์ที่มากกว่า 4 ล้านคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป
เจ้าตัว kiosks (คีออส) จะทำงานควบคู่กับ SingPass Mobile ซึ่งเป็นแอปที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2018 ที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนด้วยลายนิ้วมือของตัวเองและใบหน้าไปยังฐานข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของรัฐบาล ซึ่งเมื่อปีที่แล้วทางคณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ได้เปิดตัวโปรแกรมทดสอบระบบสแกนใบหน้าไปใช้งานที่โรงแรมบางแห่ง โดยผู้ที่มาเช็คอินจะสามารถสแกนใบหน้าผ่านกล้องเพียงไม่กี่วินาที (2-3 วินาที) เท่านั้นก็สามารถเข้าพักเช็คอินได้ทันที บอกเลยว่าเทคโนโลยีนี้ถ้านำมาใช้งานจริงๆ จะได้รับสะดวกสบายและไม่ต้องเสียเวลาในการรออีกด้วย
นอกจากนี้ ทางรัฐบาลสิงคโปร์เองยังหวังว่าจะเปลี่ยนระบบทั้งหมดเพื่อไปใช้ระบบสแกนใบหน้ากับระบบการจ่ายเงินให้สำเร็จภายในปี 2023 และในปี 2025 อาจจะใช้แอป SingPass มาทำงานควบคู่กับระบบจดจำใบหน้าได้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อที่เวลาจะไปติดต่อกับทางภาครัฐไม่จำเป็นต้องหอบเอกสารที่เป็นกระดาษให้ยุ่งยากอีกต่อไป รวมถึงประเทศสิงคโปร์กำลังเตรียมทดสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งที่เสาไฟฟ้ารอบเมืองหลวงของประเทศแล้วและตั้งเป้าว่าในปี 2022 จะเปิดระบบให้รองรับการเก็บข้อมูลจากเครื่องมือสาธารณะและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ขอบอกก่อนนะว่าผู้ที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้นั้น มีเพียงแต่เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่กฎหมายอนุญาตอย่างเดียวเท่านั้น
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : dailymail