Samsung Galaxy S20 FE 5G ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาในราคาเริ่มต้นที่ 20,900 บาท ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2400 พิกเซล) จอรีเฟรชเรท 120Hz ที่ทำให้หน้าจอนั้นมีความไหลลื่นและมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการเล่นเกมก็มีการแสดงผลที่ลื่นไหลเช่นกัน

ล่าสุด ตามรายงานจากเว็บไซต์ gsmarena.com ได้เผยว่า Samsung Galaxy S20 FE 5G เป็นสุดยอดนักฆ่าเรือธงในปี 2020 ซึ่งในลิสต์รายชื่อจะมีทั้งหมด 9 รุ่นด้วยกันให้ทุกคนได้ทำการโหวต ได้แก่
- iPhone 12 mini
- Samsung Galaxy Z Flip 5G
- Honor 30 Pro+
- OnePlus 8T
- POCO F2 Pro
- realme X50 Pro 5G
- Samsung Galaxy S20 FE 5G
- Xiaomi Mi 10T Pro 5G
- Xiaomi Redmi K30 Pro Zoom
หน้าจอแบบ Infinity-O เจาะรูขนาดเล็กเพียง 3.34 มม. ตรงกึ่งกลางบนหน้าหน้าจอสำหรับวางกล้องหน้า ที่ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ที่มาพร้อมกับโหมด Live Focus Bokeh ที่สามารถถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างสวยงาม


กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับ PDAF และมีระบบกันสั่น OIS + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ที่สามารถถ่ายภาพได้ 123 องศา + เลนส์ Telephoto ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ที่สามารถซูมแบออฟติคอลโดยไม่เสียรายละเอียดได้ 3 เท่าและซูมแบบดิจิตอลได้ 30 เท่า

รวมถึงยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่หลากหลายเหมือนกับรุ่นพี่เลย ไม่ว่าจะเป็น Bright Night Sensor Live Focus, Night Mode, Single Take, Tracking Auto Focus และโหมด Super Steady ที่เป็นระบบกันสั่นขั้นเทพ โดยไม่ต้องง้ออุปกรณ์ Stabilizer แต่อย่างใด
แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 25 วัตต์ ที่สามารถชาร์จเต็ม 50% ภายในระยะเวลา 30 นาที, รองรับการชาร์จแบบไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 และรองรับ Wireless PowerShare ได้อีกด้วย ส่วนตัวเครื่องกันน้ำ IP68 ที่สามารถแช่น้ำลึกได้ 1.5 เมตร เป็นเวลานานสูงสุด 30 นาที

นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ยังมีจุดเด่นอยู่ที่สีของตัวเครื่องที่มีด้วยกันทั้งหมด 6 สีที่สวยสดใสกว่าที่เคยมี ได้แก่ สีเขียว Cloud Mint, สีกรมท่า Cloud Navy, สีม่วง Cloud Lavender, สีแดง Cloud Red, สีส้ม Cloud Orange และสีขาว Cloud White
ส่วนราคา Samsung Galaxy S20 FE ที่ขายในไทยจะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน แบ่งออกเป็น 4G, 5G และตามหน่วยความจำ ดังนี้
- ในรุ่น 4G (8GB + 128GB) ราคาอยู่ที่ 20,900 บาท
- ในรุ่น 5G (8GB + 128GB) ราคาอยู่ที่ 23,900 บาท
- ในรุ่น 5G (8GB + 256GB) ราคาอยู่ที่ 25,900 บาท

สเปก Samsung Galaxy S20 FE
- ขนาดตัวเครื่อง 74.5 x 159.8 x 8.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 190 กรัม
- หน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2400 พิกเซล) จอรีเฟรชเรท 120Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3
- ชิปเซ็ต Exynos 990 (4G) / Snapdragon 865 (5G)
- GPU : Mali-G77 MP11 / Adreno 650
- RAM 8GB แบบ LPDDR5
- ROM 128GB (4G) / ROM 128GB/256GB (5G) สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 1TB
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 รองรับการถ่ายวีดีโอที่ให้ความละเอียดสูงสุด 4K
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับ PDAF และมีระบบกันสั่น OIS + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ที่สามารถถ่ายภาพได้ 123 องศา + เลนส์ Telephoto ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ที่สามารถซูมแบออฟติคอลโดยไม่เสียรายละเอียดได้ 3 เท่าและซูมแบบดิจิตอลได้ 30 เท่า
- แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 25 วัตต์ โดยชาร์จผ่าน USB-C, รองรับการชาร์จแบบไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 และรองรับ Wireless PowerShare ได้อีกด้วย ที่สามารถชาร์จได้ทั้ง Galaxy Buds Live, Galaxy Buds Plus และสมาร์ทโฟน
- รองรับกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐานระดับ IP68 ที่สามารถแช่น้ำลึกได้ 1.5 เมตร เป็นเวลานานสูงสุด 30 นาที
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.5
- รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแสดงผล
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ ปรับแต่งเสียงโดย AKG, ระบบเสียง Dolby Atmos
- รองรับการใช้งาน DeX ไร้สาย
- ลำโพงเสียงแบบคู่
- รองรับ Bluetooth 5.0
- รองรับพอร์ต USB-C
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : gsmarena