กลับมารีวิวกันอีกครั้งนะคะ แต่งานนี้ไม่ได้รีวิวตัวเครื่องหรือสเปกแต่อย่างใด แต่จะมารีวิวตัวกล้องไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าหรือกล้องหลังก็ตามแต่ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ ดีขึ้นกว่าเดิม แถมยังยัดฟีเจอร์รุ่นพี่มาอยู่ในรุ่นนี้อีกด้วย โอ้โห้วววว อะไรจะขนาดนั้นกับราคาที่ทุกคนก็รู้อยู่แล้วเนอะเพียง 10,490 บาท ที่วางขายในราคาใกล้เคียงกับ Galaxy A50s เลยนะ เรียกว่าเกินหมื่นเศษๆ มานิดเดียวเท่านั้นเอง แถมยังมีฟีเจอร์มาพร้อมกล้องที่จัดเต็มขนาดนี้ และนี่ก็เป็นจุดขายของ Galaxy A51 นั้นเอง เอ๊ะๆๆ อย่าเรียกว่า เอ-ห้า-สิบ-เอ็ด นะ ให้เรียกว่า เอ-ห้า-หนึ่งนะจ๊ะ ต้องเรียกให้ถูกกันด้วยน๊า
แน่นอนมีหลายคนถามกันอย่างมากมายว่าทำไม Samsung ถึงได้สับซอยออกมาเป็นรุ่นย่อยเยอะแยะขนาดนี้ เพื่ออะไรกัน?? ฮ่าๆ งานนี้ต้องบอกให้รู้กันไปเลยว่าทาง Samsung ได้เน้นเรื่องการใช้งานและฟังก์ชั่นแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น ถ้าพูดในปัจจุบันแล้วล่ะก็…คงไม่มีใครใช้เพจเจอร์คุยกันแหละมั้งเนอะ อ่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า เอาเป็นว่าเขาเน้นในเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องการความสามารถที่มากขึ้น การถ่ายวีดีโอได้ดีขึ้น และหลายคนชอบบ่นว่าเรือธงที่มีสเปกสูงๆ นั้นมีราคาที่สูงชนติดแพดานเลย แน่นอนว่าบางคนอาจจะยังไม่สามารถจับต้องตัวเรือธงในราคาที่แพงเกินเอื้อมได้ ดังนั้นแล้ว Samsung จึงจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงและนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาใส่ใน A-Series ที่โดนสับย่อยออกมาเป็นรุ่นๆ เกลื่อนกลาดเต็มไปหมดอย่างที่ทุกคนได้เห็นกันนั้นแหละจ๊ะ (ทุกคนคงจะมองภาพออกนะ อิอิ) อ่ะตอนนี้ก็เข้าใจกันแล้วเนอะ ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่าทาง Samsung เขาก็พยายามทำออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ควรจะได้อ่ะนะ
Galaxy A51
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า แน่นอนว่า Samsung Galaxy A51 นั้นก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่โดนสับย่อยมาอย่างเรียบร้อยแล้ว บางคนก็ได้เห็นตัวเครื่องกันแบบชัดๆ กันไปแล้ว แต่อย่างที่บอกไปว่าวันนี้เราจะไม่ได้จะมาเน้นในเรื่องการออกแบบตัวเครื่อง ไม่เน้นสเปกที่ให้มา แต่เราจะมาเน้นเรื่องกล้องที่เขายัดมาให้ใน Galaxy A51 ต่างหาก บอกได้เลยว่าว้าวววววอย่างแน่นอน แต่ขอพูดถึงเรื่องตัวเครื่องสักหน่อยว่า Galaxy A51 ยอมรับเลยนะว่าเขาทำออกมาได้ดีจริงๆ นะ เพราะตัวเครื่องมีความบาง ไม่เคืองมือ ขนาดกะทัดรัดแล้วราคาแบบนี้น่าจะไม่มีรุ่นไหนที่จะใส่แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh นะจ๊ะ
กล้องหลัง Galaxy A51
อ่ะเข้าเรื่องจริงๆ แหละนะ นอกเรื่องไปเยอะ การออกแบบของตัวเครื่องหลายคนก็พอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าดีหรือไม่ดียังไงนะคะ ถ้าพูดถึงเรื่องกล้องนี่เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ ซึ่ง Galaxy A51 นี่ตอนเปิดตัวออกมาถึงกับว้าวเรื่องกล้องเลยนะ เพราะจากเดิมมีกล้องหลังเพียง 3 ตัว (48+8+5 ล้านพิกเซล) แต่ครั้งนี้มาถึง 4 ตัวด้วยกัน โดยการเพิ่มเลนส์ Macro เข้าไปที่ให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับการดีไซน์ที่ใหม่ทรง L-Shaped พร้อมกับไฟแฟลช 1 ดวง ก็อย่างที่บอกไปนั้นเองว่ากล้องเป็นหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดขายของ Galaxy A51 ถ้าไม่พูดก็ไม่ได้จริงๆ แถมยังเป็นรุ่นแรกของค่ายอีกด้วยนะที่ยัดเลนส์ Macro มาให้ ฮั่นแน่ๆ อยากรู้แล้วใช่ป่ะล่ะว่าเลนส์ Macro ที่เขาใส่มาให้นั้นจะมีประสิทธิภาพดีขนาดไหน ก่อนอื่นเราต้องไปทำความรู้จักกับกล้องหลักกันก่อนนะจ๊ะทุกคน อย่าเพิ่งรีบ!!! เนื้อหามีอีกเพียบเลยจ้า
กล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, f/2.4 ถ้าเทียบกับ Galaxy A50s ก็ถือว่าเท่ากันเลยนะฮ่ะและสามารถถ่ายภาพที่ให้ความละเอียดได้สูงเลยทีเดียว แถมยังมีฟีเจอร์ AI ที่ช่วยตรวจจับและแยกแยะหมวดหมูต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, สัตว์, บุคคล, ดอกไม้, ท้องฟ้าและอื่นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว แถมภาพที่ถ่ายออกมานั้นก็ยังมีสีสันตรงกับภาพที่เราถ่ายออกมาอีกด้วย
เลนส์ Ultra-wide
มาต่อกันกับกล้องตัวที่ 2 ของ Galaxy A51 กันบ้าง ที่เป็นเลนส์ Ultra-wide จากเดิมในรุ่น Galaxy A50s ให้มาแค่ 8 ล้านพิกเซล, f/2.2 แต่ตอนนี้ขยับตัวเลขขึ้นมานะจ๊ะเพิ่มความละเอียดมาเป็น 12 ล้านพิกเซล, f/2.2 ที่สามารถถ่ายได้มุมกว้างถึง 123 องศาเลยทีเดียวเชียวแหละ จริงๆ แล้วทาง Samsung เขาก็เป็นผู้นำทางด้านความกว้าง การถ่ายภาพที่ถ่ายออกมาได้แบบบิดเบี้ยวน้อยมากแต่ก็ไม่ใช่ไม่เบี้ยวนะ แต่ก็มีความบิดเบี้ยวน้อยอ่ะจ๊ะ เข้าใจเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ แถมยังเก็บองค์ประกอบของภาพได้อย่างครบถ้วน แม้เราจะยืนถ่ายภาพในระยะใกล้ๆ ก็ตามแต่ก็สามารถเก็บได้อย่างครบถ้วนจริงๆ นะ ซึ่งก็ไม่จำเป็นที่ต้องมูฟออกจากที่ที่เรายืนอยู่เพื่อไปถ่ายภาพในที่ไกลๆ นึกภาพออกป่ะทุกคน ซึ่งการถ่ายภาพในเลนส์ Ultra-wide ของเขาดีจริงๆ นะฮ่ะ ไม่เชื่อลองดูภาพสิ
เลนส์ Depth Sensor
ยาวกันต่อนะจ๊ะทุกคน ห้ามเบื่อกันเด็ดขาด ซึ่งมันจะต้องมีความว้าวกันต่อไปจนจบเลนส์สุดท้ายนะจ้าทุกคน ต่อมาก็เป็นเลนส์ Depth Sensor ที่ให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถเก็บภาพถ่ายแบบระยะหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างละเอียดแถมสีก็ชัดสดใสสวยงามอีกด้วย
เลนส์ Macro
และมาถึงเลนส์สุดท้ายกันแล้ว ที่เป็นจุดขายและจุดเริ่มต้นที่ทาง Samsung ได้ใส่เข้ามานั้นก็คือ เลนส์ Macro นั้นเอง อ้าววววปรบมือสิค่ะ รัวววววว!!!! จากปกติโดยทั่วๆ ไปแล้วในราคาหมื่นนิดๆ ที่มาพร้อมกับเลนส์ Macro จะให้มาก็แค่ 2 ล้านพิกเซล เท่านั้นเองนะ บอกแล้วว่าเขาจัดมาให้จริงๆ ไม่ว่าจะถ่ายดอกไม้, ใบหญ้า, สิ่งของหรือวัตถุเล็กๆ หรือแม้กระทั้งถ่ายแมลงตัวเล็กกะจิ๊ดริดก็ยังสามารถถ่ายออกมาได้อย่างชัดเจนและมีสีสันที่สวยงามสดใสมากขึ้น ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะยังสามารถซูมภาพเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มได้อีกด้วย รวมถึงยังสามารถเก็บรายละเอียดของแต่ล่ะภาพที่เราถ่ายออกมาได้ดี ในราคาที่ไม่แพงอีกด้วยนะจ๊ะ ส่วนในการถ่ายภาพจากเลนส์ Macro นั้นต้องถือกล้องถ่ายออกในระยะใกล้กับตัววัตถุประมาณ 3-5 เซนติเมตร ถ้าถ่ายไกลกว่านั้นก็ไม่สามารถถ่ายได้นะจ๊ะ อ่ะเราไปดูภาพจากกล้องที่เราถ่ายเป็นเลนส์ Macro กันดีกว่า
เปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่างเลนส์ปกติและเลนส์ Ultra-wide
แล้วมีอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่ามีใครเคยเจอปัญหากับแบบนี้หรือเปล่านะ แต่คิดว่าคงอาจจะเคยเจอกันมาบ้างแหละ เมื่อถ่ายภาพจากเลนส์หลักจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งเมื่อเราจะสลับไปถ่ายภาพเป็นเลนส์ Ultra-wide ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือ ภาพที่ถ่ายออกมามันคนล่ะเรื่องกันเลย แทบจะไม่เหลือความรูปแบบของสีเดิมเลย แต่ Galaxy A51 ทำออกมาค่อนข้างดีนะจ๊ะ เรื่องนี้เราต้องให้เขาจริงๆ แหละ เพราะสีที่ถ่ายออกนั้นไม่ค่อยโดดกันมากสักเท่าไหร่
ถ่ายภาพในโหมดกลางคืน (Night mode)
ส่วนเรื่องการถ่ายภาพ Night Mode ก็ตามชื่อเลยจ๊ะ ถ่ายภาพแบบตอนกลางคืนที่เป็นการเพิ่มความสว่างและความคมชัดมากขึ้นให้กับภาพหรือในพื้นที่ที่มีแสงน้อยนั้นเอง ในส่วนของโหมดนี้จะสามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ Ultra-wide อีกด้วยนะ เอาเป็นว่าสำหรับใครที่ถ่ายภาพในช่วงตอนกลางคืน ก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าภาพที่ถ่ายออกมานั้นจะมืดสนิทแทบจะไม่เห็นอะไร, ภาพจะไม่สว่างหรือภาพที่ถ่ายออกมานั้นจะไม่เห็นรายละเอียดทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้านะ เพราะงานนี้การถ่ายภาพกลางคืนของ Galaxy A51 นั้นสามารถถ่ายในโหมด Night Mode ออกมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว ไม่พูดเยอะ พิมพ์ซะเยอะเชียว ให้ภาพเล่าเรื่องดีกว่าเนอะ
กล้องหน้า Galaxy A51
มาต่อกันที่กล้องหน้ากันบ้าง รายละเอียดอาจจะไม่ค่อยเยอะแต่ก็จัดเต็มมาเหมือนกัน โดยเจาะรูฝังลงไปในหน้าจอตรงกลางที่มีขนาดเล็กกว่า A71 ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, f/2.2 ซึ่งรุ่นที่แล้วจะให้ความสว่างมากกว่านะ แต่ก็อย่างว่าเพราะรูรับแสงใหญ่รุ่นที่แล้วมีขนาดใหญ่กว่านั้นเอง แต่งานนี้กล้องหน้าจัดโหมดถ่ายภาพกลางคืนมาให้ด้วยที่ได้รับการอัปเกรด ว่าง่ายๆ ไม่ว่าจะอยู่ในที่มืดหรือสถานที่ที่มีแสงน้อยถ่ายยังไงก็รอดนะจ๊ะ แถมเมื่อเราถ่ายย้อนแสงก็สามารถทำออกมาได้ดีสุดๆ อีกด้วย โดยภาพรวมคือสีสันที่ถ่ายออกมาไม่หลอกตาก็พอแล้วจ้า
การถ่ายวีดีโอแบบ 4K
ยังไม่หมดนะจ๊ะ กล้องหน้ายังสามารถถ่ายวีดีโอแบบ 4K ที่สามารถปรับได้ UHD 3840×2160 ไปได้เลย ซึ่งมีน้อยมากนะที่กล้องหน้าจะสามารถปรับวีดีโอเป็น 4K ได้นะจ๊ะ แต่ทาง Samsung เขาจัดหนักมาให้บน Galaxy A51 เรียบร้อยแล้ว และอย่างที่บอกไปนั้นแหละ เขาก็เน้นไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันซะส่วนใหญ่ ซึ่งเดี่ยวนี้ไม่มีคนไหนห่างไกลจากมือถืออย่างแน่นอน เห็นอะไรก็ควักขึ้นมาแชะภาพทุกส่วนของมุมโลกไปซะหมดทุกอย่างและง่ายต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วยนะ อ่ะๆ ลืมบอกไปว่าเลนส์ Ultra-wide ยังสามารถถ่ายได้แบบ 4K อีกด้วย ถือว่าน่าทึ่งจริงๆ มาแบบไม่กักกันเลย
ฟีเจอร์ต่างๆ
นอกจากนี้ ยังอัดฟีเจอร์รุ่นพี่เข้ามา นั้นก็คือ Super Steady, AR Emoji, AR Doodle และ Slow-motion เข้ามา ที่สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย และ Super Steady ที่เป็นระบบกันสั่น ไว้สำหรับถ่ายวีดีโอแบบ 4K ไม่ว่าจะเล่นกีฬาแบบ Extreme ก็ตามแต่ เพียงแค่กดโหมดนี้เข้ามา จะสยบทุกอย่างแน่นอน ถือว่าเป็น Figure Killer ที่ทำออกมาในราคานี้และยังเป็นผู้นำโหมด Steady อีกด้วย ปรบมือสิค่ะรออะไร รัววววววววว….ววววว
บทสรุป
เอาล่ะมาถึงบทสรุปท้ายที่สุดกันแล้วล่ะ เรื่องอาจจะยาวหน่อยแต่ก็มีประโยชน์กันนะจ๊ะ เอาจริงๆ นะราคาที่บอกไปเกินหมื่นมานิดๆ กับสิ่งที่ได้ไปก็ถือว่าคุ้มอยู่นะ อ่ะลองดูสิ Galaxy A51 มีการเพิ่มเลนส์ Macro เข้ามา ที่ให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยทั่วไปราคาเป็นหมื่นให้แค่ 2 ล้านพิกเซลเท่านั้นนะ, เลนส์ Ultra-wide เพิ่มมาเป็น 12 ล้านพิกเซล ที่มีความละเอียดสูงกว่ารุ่นอื่นในตลาด, กล้องดีกว่าเดิม, ส่วนกล้องหน้ามีการดีไซน์ออกมาเหมือนกับ Galaxy Note 10 เลย เออแต่ราคาหมื่นนิดๆ, รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 รุ่นใหม่ล่าสุด สวมทับด้วย One UI 2.0, สเปกพอกันกับรุ่นเดิมแต่ราคาถูกขนาดนี้ แถมยังได้ฟังก์ชั่นเหมือนกับรุ่นพี่ในราคานี้ต้องโดนแล้วม๊ายยยยย อ้าวววลองดูแล้วกันนะจ๊ะ ซึ่งบทสรุปสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อเองแหละว่าจะชอบแบบไหนมากกว่ากัน ชอบที่ความคุ้มเกินเบอร์, ชอบที่ดีไซน์ของตัวเครื่อง, ชอบตรงสเปกที่จัดมาให้หรือจะชอบฟีเจอร์ที่ยัดมาให้แบบจัดเต็ม ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนล้วนมีความชอบที่ไม่เหมือนกันนะจ๊ะ เอาล่ะ วันนี้จบการรีวิวกล้อง Galaxy A51 เพียงเท่านี้ก่อนนะจ๊ะทุกคน ครั้งหน้าจะมารีวิวอะไรกันอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ!!!