รีวิว realme Pad แท็บเล็ตรุ่นแรก บอดี้บาง แบตอึด เริ่มต้น

กกลับมาอีกครั้งกับการรีวิวผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เรียลมีที่ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์เลยที่น่าสนใจ ซึ่งครั้งนี้ทางเรียลมีเองก็ได้ประกาศเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์อีกหนึ่งชิ้นอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศไทยนั่นก็คือ เรียลมี Pad นั่นเอง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 8,990 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เปิดตัวไปแล้วที่ประเทศอินเดีย แน่นอนว่าเรียกเสียงฮือฮาสนั่นบนโลกออนไลน์เลยเชียวแหละ เพราะด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าใหม่และเป็นรุ่นแรกของแบรนด์จึงทำให้ใครหลายคนต่างก็ให้ความสนใจมากในระดับหนึ่ง และหลายคนก็พอจะรู้ถึงรายละเอียดสเปคของ realme Pad กันไปบ้างแล้วล่ะ แต่ต้องบอกก่อนเลยนะว่า จุดเด่นของแท็บเล็ตรุ่นนี้ ไม่แพ้แบรนด์อื่นเลยนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นก้าวแรกที่เข้ามาอยู่ในตลาดแท็บเล็ต แต่ไม่ใช่ว่าจะสู้กับเจ้าอื่นๆ ไม่ได้เลย ย้อนกลับไปก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทางแบรนด์เรียลมีเอง ก็ได้ปล่อยภาพตัวเครื่อง ให้เราได้เห็นการออกแบบของตัวเครื่องแท็บเล็ต พร้อมทั้งบอกเลยว่า จุดเด่นของแท็บเล็ตเครื่องนี้ คือ บางเฉียบ, น้ำหนักเบาและแบตเตอรี่ที่อึดมาก ซึ่งในยุคแบบนี้ ไม่ใช่เพียงแต่การดีไซน์เท่านั้น แต่ก็ต้องมองถึงเรื่องการใช้งาน, แบตเตอรี่ที่ต้องเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันและความคุ้มค่าที่ต้องควักเงินจ่ายในราคาที่เหมาะสม

ซึ่ง เรียลมี Pad นั้น ก็อาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลายคนคิดไว้ในใจ แต่บางคนก็ชั่งใจว่าจะเลือกหรือไม่เลือกดี เอาเป็นว่า วันนี้ทีมงาน StepGeek.TV ก็ไม่พลาดที่จะนำเจ้าตัวแท็บเล็ตเรียลมี Pad เครื่องบางเบา มาพร้อมกับแบตที่อึดถึง 7,100 mAh และยังมาพร้อมกับสเปคที่แบบว่าจัดเต็มยัดมาใส่ในเครื่องรุ่นนี้อีกด้วย มารีวิวให้ทุกคนได้รู้ว่า เรียลมี Pad นั้น คุ้มหรือไม่คุ้ม และสามารถใช้งานในชวิตประจำวันได้ดีจริงหรือไม่ และเรื่องประสิทธิภาพล่ะจะสู้กับแบรนด์อื่นๆ ได้หรือเปล่า (แต่ขอบอกก่อนนะว่าความคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่าก็ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานของแต่ล่ะบุคคลนะจ๊ะ) ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว อินโทรรรรรรรร…….มา ติ๊ดๆๆๆๆๆ

ในปัจจุบันนี้ ผลิตภัณฑ์ประเภทแท็บเล็ตล้วนมีความต้องการในกลุ่มผู้บริโภคสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้หลายค่าย ที่ไม่เคยผลิตอุปกรณ์ประเภทนี้ออกมาก่อน ต่างก็ผลิตและเปิดตัวแท็ตเล็ตของตัวเองกันทั้งนั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ แบรนด์ realme อีกทั้ง หลายคนมักจะชอบตั้งคำถามที่ว่า “ช่วยแนะนำแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ราคาที่คุ้มค่า ตัวเครื่องไม่หนักมาก ดีไซน์พรีเมียมมีบ้างไหมคะ/ครับ” แน่นอนว่า ช่วงนี้ทำงานอยู่บ้าน, เรียนออนไลน์, ประชุมออนไลน์ หรือแม้กระทั้งบางครั้งอาจจะต้องใช้แท็บเล็ตถือไปไหนต่อไหนเพื่อพรีเซนต์งานนอกสถานที่ คำว่า “แท็บเล็ต” นั้น จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนตัดสินใจซื้อนั่นเอง

จุดเด่นของแท็บเล็ต เรียลมี Pad ที่ไม่เหมือนใครนั่นก็คือ ตัวเครื่องนั้นมีความบางเฉียบเพียง 6.9 มิลลิเมตร, หน้าจอขนาด 10.4 นิ้ว แบบ WUXGA+ ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล, แบตเตอรี่ที่อึดมากสามารถใช้งานได้นานและเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ล่ะวัน ด้วยความจุ 7,100 mAh, ลำโพงที่ยัดมาให้ถึง 4 ตัว มาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos แน่นอนว่า ความดังกระหึ่มคือไม่แพ้ใคร, ใช้ชิปเซ็ตเกมมิ่งอย่าง Helio G80 ของ MediaTek, กล้องถ่ายภาพถึงแม้จะมีตัวเดียวแต่ก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงาม ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รันระบบปฏิบัติการ realme UI และรองรับการเชื่อมต่อ Smart Connect แบบอัจฉริยะ ส่วนเรื่องการดีไซน์และคุณภาพของตัวเครื่อง ทางเรียลมีเองก็ใส่ใจมากเป็นพิเศษเช่นกัน แหมมมมรุ่นแรกของแบรนด์จะทำให้ผิดหวังได้ไงล่ะ จริงไหม!!!….

โดยตัวเครื่องเรียลมี Pad ทำมาจากวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกลึง CNC ที่ให้ความแม่นยำสูงเพื่อใช้ในการตัดเพชร, ชุบผิวแบบอโนไดซ์และขัดผิวด้วยการพ่นทราย ซึ่งก็ทำให้ตัวเครื่องของเรียลมี Pad นั้นดูมีความหรูหรา ฝาหลังดูพรีเมียมและสัมผัสละเอียด สบายมือและมีทั้งหมด 2 สี ให้เลือก ได้แก่ สีเทา Real Grey และสีทอง Real Gold นี่เป็นเพียงแค่จุดเด่นที่สำคัญๆ ของแท็บเล็ตรุ่นนี้เท่านั้นเอง ถือว่าเป็นน้ำจิ้มเล็กๆ ก็แล้วกัน

อุปกรณ์ภายในกล่อง มีอะไรบ้าง??

เรียลมี Pad สีเทา
อะแดปเตอร์
สายชาร์จ
เข็มจิ้มซิม

สเปค เรียลมี Pad

ขนาดตัวเครื่อง 246.1 x 155.9 x 6.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 440 กรัม
หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 10.4 นิ้ว แบบ WUXGA+ ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 360nits, การแสดงสีได้มากถึง 16.7 ล้านสีและอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 82.5%
ชิปเซ็ต MediaTek Helio G80 ขนาด 12 นาโนเมตร
GPU Mali-G52 (950MHz)
RAM 4GB/6GB
ROM 64GB/128GB เพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 1TB
กล้องหลังตัวเดียว ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ขนาด 7,100 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์และรองรับชาร์จแบบ Reverse Charging
รองรับการเชื่อมต่อ 4G/LTE
รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (Wi-Fi 5)
รองรับลำโพง 4 ตัว มาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos
มีไมโครโฟน 2 ตัว
มีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
มีพอร์ต USB-C
รองรับ Bluetooth 5.0
รันระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI ของ realme Pad
มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเทา Real Grey และสีทอง Real Gold

ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 6.9 มิลลิเมตร จับถนัดมือ ถือใช้งานนานแค่ไหนก็ไม่เมื่อยมือ

การดีไซน์ตัวเครื่องเรียลมี Pad นับตั้งแต่ที่ได้เห็นภาพเรนเดอร์ร่อนออกมาบนโลกออนไลน์ตอนแรก คือก็แอบตกใจอยู่นิดนึงว่า เห้ยยยยย….ยยย แบรนด์เรียลมีทำแท็บเล็ตออกมาจริงเหรอ!!!! แน่นอนจริงๆ ลุยตลาดเกือบจะทุก Segment เลย และเมื่อตัวเครื่องมาถึงมือเราแล้ว ก็ต้องร้องว้าวววเลยแหละ เพราะไม่คิดว่า ที่ทางเรียลมีได้เคลมไว้ว่า ตัวเครื่องเรียลมี Pad นั้นจะมีความบางเฉียบ คือเรื่องจริง!!! โดยจุดเด่นหลักๆ ก็อย่างที่บอกไปนั่นก็คือ ตัวเครื่องนั้นมีความบางเฉียบอยู่ที่ 6.9 มิลลิเมตรและน้ำหนักเบาเพียง 440 กรัม ซึ่งในปัจจุบัน กลุ่มผู้บริโภคเริ่มหันมาเล่นหรือใช้งานแท็บเล็ตกันมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าหากเทียบจากเมื่อก่อน เพราะด้วยขนาดที่กะทัดรัด จะถือไปไหนมาไหนก็สะดวกสบาย น้ำหนักเบากว่าเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊คและสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะทำงาน, ฟังเพลง, ดูหนังหรือจะเล่นเกมก็ตามแต่…ก็สามารถเล่นและใช้งานได้เป็นอย่างดี

ซึ่ง เรียลมี Pad ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกและอาจจะตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบถือหรือพกแท็บเล็ตใส่กระเป๋าไปด้วยทุกๆ ครั้ง จะให้ถือแท็บเล็ตหนักๆ ก็คงไม่อยากถือถูกต้องไหม?? ดังนั้นแล้ว ถ้าตัวเครื่องบางเฉียบ, น้ำหนักเบาและสามารถเป็นอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานของเราได้แล้ว เรียลมี Pad ก็เป็นตัวเลือกอุปกรณ์หนึ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้ง การดีไซน์ ทางเรียลมีเองยังใส่ใจทุกขั้นตอน ตัวเครื่องดีไซน์เมทัลลิค ทำจากวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ผ่านกระบวนการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง เครื่องกลึง CNC ที่ใช้ ในการตัดเพชร การชุบผิวแบบอโนไดซ์ ขัดผิวด้วยการพ่นทราย ทำให้ฝาหลังของเรียลมี Pad นั้นดูมีความพรีเมียม หรูหราและสัมผัสละเอียด สบายมือ

ด้านบนของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องและมีลำโพง 2 ตัว ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และลำโพง 2 ตัว ในขณะที่ ด้านขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง, ถาดใส่ซิมและรูไมโครโฟน และด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มอะไรแต่อย่างใด

หน้าจอ WUXGA+ ขนาด 10.4 นิ้ว ไม่ว่าจะทำงาน, ดูหนังและเล่นเกมก็สามารถดูได้อย่างเต็มตาเต็มจอ

เรียลมี Pad มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส WUXGA+ (Widescreen Ultra eXtended Graphics Array Plus) ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล ทำให้ภาพนั้นมีความละเอียด, คมชัดและสีสดเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อเราดูหนังหรือจะเล่นเกมก็จะได้รับอรรถรสที่สมจริง อีกทั้ง หน้าจอยังมาพร้อมกับโหมดที่รองรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ เพื่อถนอมสายตา

ไม่ว่าจะเป็น Reading Mode ที่จะทำให้หน้าจอขณะอ่านมีสีที่ใกล้เคียงกับกระดาษ ทำให้ดวงตาไม่เมื่อยล้า ในขณะที่จ้องหน้าจอเป็นระยะเวลานานๆ, Dark Mode จะช่วยในการถนอมดวงตา ในขณะที่ใช้งานในที่มืด, Night Mode ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ ลงอย่างต่ำ 2 nits ที่จะช่วยถนอมสายตา ในขณะที่ใช้งานตอนกลางคืนและ Sunlight Mode ปรับหน้าจอสว่างอัตโนมัติอยู่ที่ความสว่างสูงสุด ช่วยให้มองเห็นหน้าจอชัด ไม่ว่าเราจะอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงจ้า

อีกทั้ง โดยความชอบส่วนตัวล้วนๆ เลยนะ คือ เป็นคนชอบดูหนัง-ดูซีรี่ส์เป็นตอนๆ และก็จะดูแบบยาวๆ ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เรียลมี Pad ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ สามารถดูหนังได้อย่างเต็มตาเต็มจอจริงๆ รวมไปถึง ยังมาพร้อมกับลำโพงที่ยัดมาให้ถึง 4 ตัว ด้วยเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos และได้รับการันตีคุณภาพระดับ Hi-Res ที่ทำให้เสียงนั้นดังกระหึ่ม ก้องกัลวาลด้วยระบบเสียง Smart PA มากไปกว่านั้น ยังรองรับ Adaptive Surround Sound ทำให้ได้ยินเสียงรอบทิศทางอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพในการใช้งาน ใช้ชิปเซ็ตเกมมิ่งที่มีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อน

ไม่เพียงแต่เรื่องการดีไซน์ที่บางเบาแล้วเรียลมี Pad ยังยัดชิปเซ็ตเกมมิ่ง Helio G80 ของ MediaTek ที่ให้ความเร็วสัญญาณสูงถึง 2.0GHz มาพร้อมกับ CPU ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นก่อนถึง 35% และมี GPU แบบ Mali-G52 950MHz ซึ่ง GPU นั้นก็มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 20% ทำให้เรียลมี Pad นั้นมีภาพที่คมชัด, ความละเอียดสูงและอัตราเฟรมเรทที่เสถียรมากขึ้นสำหรับการเล่นเกมและทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ยาวนานขึ้นอีกด้วย

ชิปเซ็ต Helio G80 ของ MediaTek นั้น ได้รวม CPU ARM Cortex-A75 ที่ทรงพลัง ที่มีความเร็วถึง 2.0GHz และมี CPU Cortex-A55 จำนวน 6 คอร์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 1.8GHz เพื่อประสิทธิภาพการทำงานเดี่ยวและมัลติคอร์ที่ดีขึ้น สำหรับการเล่นเกม และชิปเซ็ต Helio G80 เน้นสายเกมในราคาที่ไม่แพงและได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่ดีขึ้นกว่าชิปรุ่นก่อนหน้านี้ ผลิตด้วยสถาปัตยกรรม 12 นาโนเมตร

ซึ่งหลังจากที่เราได้ทดสอบและใช้งานกันมาสักพักกับเจ้าแท็บเล็ตรุ่นนี้ คือ มีความประทับใจอยู่ในระดับหนึ่งเลยนะ ไม่ว่าเราจะทำงานหรือจะเล่นเกมบนแท็บเล็ตเรียลมี Pad นั้น การทัชก็ลื่นติดมือดี โดยปกติแล้ว สำหรับคนที่ทำงานไม่ว่าจะทำงานบนแท็บเล็ต, โน้ตบุ๊คหรือจะอุปกรณ์ไหนก็แล้วแต่ ถ้าเกิดปัญหาเรื่องเหล่านี้แล้วล่ะก็…ก็คงต้องไปถอยรุ่นที่ดีกว่า แต่สำหรับเรียลมี Pad นั้นไม่พบกับปัญหานี้เลย

กล้องถ่ายภาพ สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัด ด้วยความละเอียดระดับ HD

มาพูดถึงเรื่องกล้องถ่ายภาพกันบ้าง สำหรับ เรียลมี Pad นั้น มาพร้อมกับกล้องหลังเพียงตัวเดียว ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เช่นกัน ความคมชัดในระดับ HD ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่นั้นมีความสว่างมากขึ้นและชัดขึ้นกว่าเดิม อีกทั้ง ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Ultra Wide-angle 105 องศา ที่จะช่วยจับภาพให้กว้างขึ้นเมื่อถ่ายเซลฟี่หรือประชุมออนไลน์

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับไมค์คู่ตัดเสียงรบกวน ในขณะที่อยู่ในสาย ซึ่งไมค์คู่นั้นรองรับ Noise Cancellation หรือเรียกว่า ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก ช่วยให้การได้ยินเสียงชัดและเคลียมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้เมื่อมีการประชุมหรือเรียนออนไลน์ก็ตาม

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหลัง

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหน้า

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,100 mAh ใช้งานได้นานทั้งวัน รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์

เห็นตัวเครื่องบางก็จริง แต่เรียลมี Pad ยัดแบตเตอรี่มาให้ขนาดใหญ่ถึง 7,100 mAh สามารถใช้งานได้นานตลอดทั้งวันและสามารถใช้งานในโหมด Standby ได้นานถึง 65 วันและสามารถดูวิดีโอแบบต่อเนื่องได้นานถึง 12 ชั่วโมง อีกทั้ง ยังรองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ พร้อมรองรับการชาร์จแบบ OTG (On-The-Go) ทำให้เรียลมี Pad สามารถเป็น Power Bank ให้กับสมาร์ตโฟนได้เลย

โดยทาง realme เอง ได้เคลมว่า สามารถเล่น WhatsApp ได้นานถึง 21 ชั่วโมง, ประชุมวิดีโอ Zoom ได้ถึง 7 ชั่วโมง, ดู YouTube ได้นาน 12 ชั่วโมงและสามารถเล่นเกมได้นาน 6 ชั่วโมง

ระบบปฏิบัติการใช้งานอย่างลื่นไหล

realme Pad มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ realme UI เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สนุกมากขึ้น ลื่นไหลมากขึ้นกว่าเดิมและอัดแน่นไปด้วยความบันเทิงมากขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชั่นและโหมดที่อำนวยความสะดวกให้กับการทำงานของเราอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Multi-Window สามารถเปิดหน้าต่างและใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้เลย

นอกจากนี้ realme เองได้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาการและเติบโตของเด็ก จึงมีการเพิ่ม Google Kids Space ใน realme Pad เพื่อเสริมแอปพลิเคชั่น, วิดีโอและ E-Book สำหรับเด็กๆ โดยตัว interface ของ Kids Space นี้มาพร้อมกับสีสันที่สวยงาม, น่ารัก, ใช้งานง่ายและผู้ใหญ่เองก็สามารถเลือกตั้งค่าหน้าจอและการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ให้กับเด็กๆ ได้เลย

มีการเชื่อมต่อ Smart Connect ที่อัจฉริยะ

เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ realme Pad ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบอัจฉริยะอย่าง Smart Connect ที่สามารถใช้ realme Band หรือ realme Watch เพื่อปลดล็อคหน้าจอ realme Pad ได้เลย คือ ใช้งานง่ายมากและสะดวกสบายในการใช้งาน ทั้งนี้ Smart Connect ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อแชร์ไฟล์หรือรูปภาพได้ทันที, สามาถเชื่อมต่อกับหูฟังไร้สายได้อย่างอัตโนมัติ ในขณะที่อยู่ใกล้กันและสามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอระหว่าง realme Pad และ Smart TV ได้อย่างง่ายดาย

สรุปความคุ้มค่า ถ้าหากซื้อ realme Pad ในราคา 8,990 บาท จะคุ้มหรือไม่คุ้ม!!!!

ความคุ้มหรือไม่คุ้ม ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานของแต่ละคน บางคนก็เน้นเรื่องการทำงาน, ฟังเพลงและดูหนัง บางคนเน้นเรื่องเกมและกล้องถ่ายภาพ ซึ่งล้วนมีความชอบที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าจะให้แนะนำสำหรับการใช้งานของ realme Pad นั้น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่น่าสนใจและสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นทำงาน, อ่านคอนเทนต์ต่างๆ, อ่านข่าว, ดูหนัง, ดูซีรี่ส์, ฟังเพลงและเล่นเกม ถึงแม้แบรนด์ realme เองจะเป็นก้าวที่เข้ามาเล่นในตลาดแท็บเล็ต แต่ก็เป็นก้าวที่สำคัญและทางแบรนด์เองก็คิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้วที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นออกมาให้ดีที่สุดและตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบัน ผู้บริโภคก็เริ่มหันมาเล่นแท็บเล็ตกันเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานออนไลน์ยิ่งแล้วใหญ่เลย พกเครื่องเดียวก็สามารถทำงานได้โดยไม่มีปัญหา

อีกทั้งตัวเครื่องนั้นก็สามารถพกพาไปไหนก็ได้ทุกที่ สบายมือทุกครั้งเมื่อจับมือด้วยตัวเครื่องที่มีความบางเฉียบและน้ำหนักที่เบาเพียง 440 กรัม แล้วอีกอย่าง การดีไซน์ของ realme Pad นั้นก็ไม่อายแบรนด์อื่นๆ เลยนะ ถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดี โดยใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ให้ความแข็งแรงและทนทาน พร้อมทั้งฝาหลังก็ดูมีความเป็นพรีเมียมและหรูหราเป็นที่สุด อีกทั้ง ยังอัดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,100 mAh แน่นอนว่า realme Pad รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วย แต่ถ้าหากเกิดแบตเตอรี่หมดจริงๆ realme Pad ก็มาพร้อมกับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ชาร์จไม่นานก็สามารถหยิบขึ้นมาใช้งานต่อได้เลย!!!

ส่วนการใช้งานของ realme Pad ค่อนข้างที่จะประทับใจอยู่พอสมควรเลยแหละ หลังจากที่ได้ทดลองใช้มาประมาณ 3-4 วัน ตามความรู้สึกคือ ให้การสัมผัสที่ดี ลื่นไหลดี ไม่หน่วง ไม่กระตุกเลยนะ แต่การใช้งานของเราระหว่างวันก็คือ ทำงานออนไลน์, เล่นโซเชียล, ดูหนัง, ฟังเพลง คือไม่ได้ใช้งานอะไรหนักๆ จนเกินไป เรื่องนี้ถือว่าผ่าน!!! ส่วนเรื่องการเล่นเกม ก็อย่างที่บอกว่า realme Pad นั้นใช้ชิปเซ็ตเกมมิ่ง MediaTek Helio G80 ซึ่งก็ถูกเคลมว่า มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม ทั้งเรื่องของ CPU และ GPU เลย ทำให้การเล่นเกมนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรค สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล อีกอย่างยังไม่พบความหน่วงหรือการกระตุกเลยนะ

รวมไปถึงเมื่อเราดูหนัง, ฟังเพลงหรือเล่นเกม การที่มีเสียงลำโพงที่ดังกระหึ่มจะได้รับอรรถรสในการดูและการเล่นเพิ่มเข้าไปอีก ซึ่ง realme Pad ก็ได้ยัดลำโพงพรีเมียมมาให้ถึง 4 ตัวด้วยกัน ด้วยเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos และได้รับการการันตีคุณภาพระดับ H-Res ทำให้เสียงที่เราได้ยินนั้นดังก้องกัลวาลด้วยระบบเสียง Smart PA และยิ่งไปกว่านั้น ยังรองรับ Adaptive Surround Sound ทำให้ได้ยินเสียงรอบทิศทางอย่างเต็มประสิทธิภาพ

จะว่าไป realme Pad นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานพื้นฐานและในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีเลยแหละ เอาเป็นว่าสำหรับราคาที่เปิดขายในประเทศไทยในราคาเริ่มต้นที่ 8,990 บาท ก็ลองเวทน้ำหนักดูถึงความเหมาะสม, การใช้งานและความชอบนะคะ อ่ะๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะ ยังมี Flash sale กับทาง Shopee หากซื้อในวันที่ 19-23 ตุลาคมนี้ ราคาขาย realme Pad (4GB+64GB) อยู่ที่ 6,990 บาท สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ก่อน แล้วกลับมาพบกันใหม่ครั้งหน้า รอลุ้นกันว่าจะมีอะไรมารีวิวอีก สวัสดีค่ะ!!!!