สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้งกับการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นน่าสนใจโดยทีมงาน StepGeektv ซึ่งในวันนี้จะเป็นคิวของสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง OPPO Find X ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา อย่างที่ทราบกันดีว่า OPPO Find X นั้นมีการปรับปรุง และพัฒนา ที่เรียกได้ว่า ใหม่หมดจดทั้งเครื่อง ตั้งแต่ ดีไซน์การออกแบบ, กล้องถ่ายภาพ หน้าจอแสดงผล และสเปกเครื่อง บอกได้เลยว่า ทาง OPPO ตั้งใจ และผลิต OPPO Find X ออกมาให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากที่ทีมงาน StepGeektv ได้ทำการพรีวิวแบบเบื้องต้นของ OPPO Find X กันไปบ้างแล้วในบทความที่ผ่านมา คราวนี้ทางเราจะพาทุกท่านไปไปร่วมทดสอบ OPPO Find X กับแบบเจาะลึกว่า ดีไซน์การออกแบบ, กล้องถ่ายภาพ หน้าจอแสดงผล และสเปกเครื่อง นั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเพียงใด และรวมถึงมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว OPPO Find X พร้อมกันได้เลยครับ
สเปกเครื่องแบบคร่าวๆ ของ OPPO Find X
– ผลิตด้วยเทคโนโลยีแบบ Unified Design ผสานกระจกไร้รอยต่อแบบ Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยหรูพรีเมียม
– สีของเครื่องยังเป็นดีไซน์แบบ Gradient Design ซึ่งให้ความงดงามดุจอัญมณี และมีการไล่เฉดสีแบบ 3D จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเงางามในทุกมุมมอง
– หน้าจอแสดงผลแบบ Panoramic Arc Screen AMOLED รุ่นแรกของโลก ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล ที่มีอัตราส่วน 19.5:9 บนขนาด 6.4 นิ้ว ซึ่งมีพื้นที่การแสดงผลมากถึง 93.8%
– ใช้ชิปเซ็ต 64-Bit Octa-Core Qualcomm Snapdragon 845 (มีหน่วยประมวลผล AI Engine โดยเฉพาะ)
– หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 630
– หน่วยความจำแรมขนาด 8 GB
– หน่วยความจำภายในขนาด 256 GB
– ใช้ระบบปฏิบัติการ ColorOS เวอร์ชัน 5.1 (Android เวอร์ชัน 8.1 Oreo)
– รองรับระบบสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ (3D Face Recognition)
– กล้องถ่ายภาพด้านหน้า และด้านหลัง มีดีไซน์แบบ Stealth 3D Cameras ที่สามารถเลื่อนขึ้นแบบอัตโนมัติเมื่อมีการเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ
– กล้องถ่ายภาพด้านหน้ามีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ที่มีรูระบแสงกว้างสูงสุด F/2.0 พร้อมรองรับเทคโนโลยี 3D AI Selfie และรองรับฟังก์ชัน 3D Lighting
– กล้องถ่ายภาพด้านหลังเป็นแบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Scene Recognition, รองรับโหมด AI Portrait , รองรับฟังก์ชัน 3D Lighting
– มีแบตเตอรี่ขนาด 3730 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยี Super VOOC ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 35 นาที เท่านั้น
– มีให้เลือก 2 สี คือ Bordeaux Red กับ Glacier Blue
– ราคา 29,990 บาท
ดีไซน์ ตัวเครื่อง และการออกแบบ
แพ็กเกจของ OPPO Find X จะมาในสีน้ำเงินเข้มที่ให้ความรู้สึกถึงความพรีเมียม ภายในแพ็กเกจก็มีอุปกรณ์เอาไว้ให้ใช้งานหลายอย่าง ได้แก่ หูฟังแบบพอร์ต USB Type-C, อะแดปเตอร์, สาย USB Type-C และสายแปลงพอร์ตจาก USB Type-C to 3.5 มิลลิเมตร (เนื่องจากเครื่องที่ได้เป็นเครื่องทดสอบ จึงยังมีอุปกรณ์มาให้ไม่ครบครับ)
OPPO Find X มาพร้อมกัยหน้าจอแสดงผลแบบ Panoramic Arc Screen AMOLED รุ่นแรกของโลก ซึ่งมีความละเอียด 2340×1080 พิกเซล ที่มีอัตราส่วน 19.5:9 บนขนาด 6.4 นิ้ว โดยตัวเครื่องมีขนาด 156.7×74.2×9.6 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 186 กรัม
ซึ่งมีพื้นที่การแสดงผลมากถึง 93.8%
ด้านหน้าส่วนบนเป็นดีไซน์แบบ Stealth Cameras ที่สามารถเลื่อนขึ้นแบบอัตโนมัติเมื่อมีการเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ และกล้องดิจิทัลจะเลื่อนลงมาซ่อนแบบเดิม เมื่อออกจากแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพ โดยกล้องถ่ายภาพด้านหน้ามีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ที่มีรูระบแสงกว้างสูงสุด F/2.0 พร้อมรองรับเทคโนโลยี 3D AI Selfie, รองรับฟังก์ชัน 3D Portrait Lighting และมีเซ็นเซอร์ต่างๆ มาให้อย่างครบครัน
ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen
ด้านบนมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกเสียง หรือบันทึกการสนทนา
ด้านล่างมีลำโพงเสียงภายนอก, ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อการสาย USB Type-C และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด
ซึ่งเป็นถาดแบบ Dual SIM ใส่ได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด แต่ไม่มีช่องเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
ด้านขวามีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ
ด้านซ้ายมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง
ตัวเครื่องของ OPPO Find X ยังใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unified Design ผสานกระจกไร้รอยต่อแบบ Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยหรูพรีเมียม นอกจากนี้ สีสันของเครื่องยังเป็นดีไซน์แบบ Gradient Design ซึ่งให้ความงดงามดุจอัญมณี และมีการไล่เฉดสีแบบ 3D จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเงางามในทุกมุมมอง นอกจากนี้ OPPO Find X ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 3730 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยี Super VOOC ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 35 นาที เท่านั้น
ด้านหลังของเครื่องเป็นดีไซน์แบบ Stealth Cameras เช่นเดียวกันซึ่งเมื่อมีการเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ โดยกล้องถ่ายภาพด้านหลังเป็นแบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/2.0 ทั้งคู่ พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Scene Recognition, รองรับโหมด AI Portrait , รองรับฟังก์ชัน 3D Portrait Lighting
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์
ใช้ระบบปฏิบัติการ ColorOS เวอร์ชัน 5.1 ซึ่งมีพื้นฐานเป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo
รองรับการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ รองรับเทคโนโลยีการโทรด้วยเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE)
OPPO Find X มีหน่วยความจำแรมขนาด 8 GB กับหน่วยความจำรอมขนาด 256 GB
สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตมาใช้งานที่หน้าจอโฮมสกรีน, การเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอ และการเปลี่ยนธีม
มีบริการต่างๆ จาก Google ให้ใช้งานอย่างครบครัน
ฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ กดหมายที่ต้องการได้ง่าย และฟังก์ชันสำหรับเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้ทันที
มีแอปพลิเคชันการจัดการโทรศัพท์ สำหรับตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์หน่วยความจำแรม, การสแกนไวรัส หรือการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในการเข้าถึงข้อความ กับแอปพลิเคชัน เพื่อปกป้องการรั่วไหลของข้อมูลที่ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นเห็น หรือโจรกรรมไป
สามารถใช้งานบริการฝากไฟล์ทั้ง รูปภาพ, รายชื่อ และหน้าเบราว์เซอร์ ได้ผ่าน OPPO Cloud
รองรับการแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพิลเคชัน และสามารถเปิดใช้งานโหมดถนอมสายตา ซึ่งสามารถปรับระดับความเข้ม หรืออ่อน ของแสงสีเหลืองได้
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ OPPO Find X สามารถแสดงแสงไฟพาโนราม่า เมื่อมีการแจ้งเตือนใหม่ขณะหน้าจอล็อก หรือมีสายเรียกเข้า โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีม่วง, สีฟ้า และสีส้ม
ด้วยหน้าจอแสดงผลที่กว้าง จึงทำให้การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์นั้นสะดวกสบาย สามารถแสดงเนื้อหาได้ครบ ทำให้ไม่ต้องเพ่งเพื่ออ่านให้เมื่อยล้าดวงตา
สามารถเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน และมีเซ็นเซอร์ต่างๆ มาให้ใช้งานอย่างครบครัน ซึ่งรวมถึง Gyroscope ก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
OPPO Find X นั้นมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอย่างระบบสแกนใบหน้า (3D Face Recognition) ซึ่งระบบสแกนใบหน้าของ OPPO Find X ของเป็นรุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีการจับแสงแบบ 3D Structured Light พร้อมประมวลผลใบหน้าของผู้ใช้กว่า 15,000 จุด แน่นอนว่า OPPO Find X นั้นสามารถจดจำใบหน้าของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้ภายในเวลาอันรวดเร็วแม้ในที่แสงน้อย และปลอดภัยกว่าการสแกนด้วยลายนิ้วมือถึง 20 เท่า
ในส่วนของปุ่มการสั่งงานก็สามารถเลือกได้ 2 ประเภท คือ ปุ่มการสั่งงานแบบที่เราใช้งานกันปกติ หรือการสั่งงานด้วยการเลื่อนนิ้ว เช่น เลื่อนขึ้นจากมุมจอฝั่งซ้ายเพื่อย้อนกลับ หรือเลื่อนจากกลางจอด้านล่างเพื่อไปที่หน้าโฮม
หากใครไม่ถนัดการสั่งงานดังกล่าวก็สามารถเปิดลูกบอลช่วยเหลือได้ เช่น ซึ่งการแตะ 1 ครั้ง จะเป็นการย้อนกลับ, แตะ 2 ครั้ง จะเป็นการเรียกใช้งาน Multitasking และแตะค้างเพื่อกลับสู่หน้าโฮม
นอกจากนี้ OPPO Find X ยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ ไม่ว่าจะเป็น เช่น ดับเบิ้ลคลิกที่หน้าจอแสดงผล เพื่อปลุกการทำงานของเครื่อง, วาดตัวอักษร O เพื่อเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ และสามารถกำหนดรูปแบบการวาดตัวอักษรอื่นๆ เพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชันที่ต้องการได้
สามารถเปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชันอื่นๆ ได้อีกหลายแบบ ได้แก่ ใช้ 3 นิ้วเลื่อนลงเพื่อถ่ายภาพหน้าจอ, รับสายอัตโนมัติเมื่อโทรศัพท์แนบหู หรือคว่ำโทรศัพท์เพื่อปิดเสียงเรียกเข้า
อีกทั้งยังสามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook หรือ Line นั่นหมายความว่าผู้ใช้จะสามารถล็อกอินเพื่อเข้าใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์เลยทีเดียว
นอกจากนี้ OPPO Find X ยังมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาคือ Game Space ซึ่งเป็นการนำเกมทั้งหมดมาไว้ที่เดียวกัน เพื่อให้สะดวกต่อการเล่นเกม อีกทั้งยังสามารถล็อกความสว่างของหน้าจอให้อยู่ในระดับที่ต้องการขณะเล่นเกม หรือปิดกั้นการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม และแน่นอนว่าสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Hold of distraction (ห้ามรบกวน) สำหรับรับสายโดยไม่สลับหน้าจอไปหน้าฟังก์ชันโทรศัพท์ในขณะเล่นเกม อีกทั้งยังสามารถพูดคุยกับสายเรียกเข้าได้ทันทีขณะที่เล่นเกมอีกด้วย
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ให้ทำงานประสิทธิภาพสูงสุดได้ เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้เกมใด หรือแอปพลิเคชันไหนในการเร่งความเร็วของฮาร์ดแวร์ได้
สามารถชมภาพยนตร์ที่ชื่นชอบความละเอียดระดับ 4K Ultra HD ได้อย่างไหลลื่น
และมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง และเปิดใช้งานระบบเสียง Dirac (ระบบเสียง Dirac ต้องใช้งานร่วมกับหูฟังเท่านั้น) อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่มีให้ใช้งานบน OPPO Find X คือ Music Party สำหรับแชร์เพลงผ่าน WiFi เดียวกัน เพื่อฟังพร้อมๆ กันบนสมาร์ทโฟนตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป (ฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 5.1 ขึ้นไป)
OPPO Find X ใช้ชิปเซ็ต 64-Bit Octa-Core Qualcomm Snapdragon 845 (มีหน่วยประมวลผล AI Engine โดยเฉพาะ), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 603, หน่วยคววามจำแรมขนาด 8 GB และหน่วยความจำรอมขนาด 256 GB
ผลทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark นั้นได้คะแนนอยู่ที่ 285697 คะแนน สำหรับการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 จะได้ 2301 คะแนน (Sinlge-Core) กับ 8154 คะแนน (Multi-Core)
สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark จะได้ 19076 คะแนน
กล้องถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอ
ทางด้านกล้องถ่ายภาพด้านหลังของ OPPO Find X นั้นได้รับการพัฒนาเพื่อให้ถ่ายภาพได้ดี พร้อมทั้งรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่าง AI ซึ่งจะเข้ามาช่วยประมวลผลให้ภาพถ่ายที่ได้มีความคมชัด และสีสันสดใสสมจริง นอกจากนี้ กล้องถ่ายภาพด้านหลังยังรองรับเทคโนโลยี AI Scene ที่สามารถระบุประเภทของวัตถุที่กำลังจะถ่ายภาพได้มากถึง 800 ซีน เลยทีเดียว
โดย Interface กล้องถ่ายภาพด้านหลังของ OPPO Find X ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย มีการแสดงไอคอนฟังก์ชันเอาไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที เช่น ฟังก์ชัน HDR หรือ การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ นอกจากนี้ ยังมีโหมด่ถายภาพให้เลือกใช้งานหลายแบบ เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพ Portrait, โหมดถ่ายภาพ AR Sticker, โหมดพาโนราม่า และโหมดถ่ายภาพโปร
สำหรับโหมดถ่ายภาพ Portrait นั้นจะทำงานร่วมกับ AI โดยตัว AI จะทำการเบลอฉากหลังให้แบบอัตโนมัติ หลังจากถ่ายภาพ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน 3D Lighting ให้ผู้ใช้ถ่ายภาพที่มีแสงในรูปแบบอื่นๆ ได้ ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 รูปแบบ เลยทีเดียว
ในส่วนของโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลากหลาย เช่นกัน ไวท์บาลานซ์ หรือการโฟกัส ส่วนโหมดถ่ายภาพหน้าสวยของกล้องถ่ายภาพด้านหลังก็ได้การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยประมวลผลด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถปรับค่าได้ทั้งหมด 6 ระดับ หรือจะเลือกให้ปรับค่าแบบอัตโนมัติก็สามารถทำได้อีกด้วย
ทางด้านเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ กับฟังก์ชัน AR Sticker ก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ
สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD แต่หากถ่ายวิดีโอร่วมกับการปรับค่าผิวเนียนจะถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ HD (720p)
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพด้านหน้าก็มีการแสดงไอคอนฟังก์ชันเอาไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที เช่น ฟังก์ชัน HDR หรือ การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ นอกจากนี้ ยังมีโหมด่ถายภาพให้เลือกใช้งานหลายแบบ เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพ Portrait, โหมดถ่ายภาพ AR Sticker และโหมดพาโนราม่า
สามารถใช้งานโหมดถ่ายภาพ Portrait และฟังก์ชัน 3D Lighting ได้
ส่วนโหมดถ่ายภาพหน้าสวยของกล้องถ่ายภาพด้านหลังก็ได้การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยประมวลผลด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถทำการสแกนใบหน้าของผู้ใช้ได้ และตัว AI จะทำการประมวลผล และทำการปรับใบหน้า และผิวให้เหมาะสมมากที่สุดได้ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับค่าแบบปกติได้ทั้งหมด 6 ระดับ หรือจะเลือกให้ปรับค่าแบบอัตโนมัติก็สามารถทำได้อีกด้วย
ทางด้านเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ กับฟังก์ชัน AR Sticker ก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างอวตารของตนเองได้ ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อย OPPO Find จะทำการสร้างสติกเกอร์ให้เราหลายรูปแบบ และสามารถส่งสติกเกอร์ผ่านทางแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กไปอวดเพื่อนๆ ได้
สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p) แต่หากถ่ายวิดีโอร่วมกับการปรับค่าผิวเนียนจะถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ HD (720p)
ตัวอย่างภาพจากกล้องถ่ายภาพด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI Beauty พร้อมปรับค่าอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ Portrait ฟังก์ชัน 3D Lighting
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ Portrait แบบปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AR Sticker
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AR Sticker
ตัวอย่างภาพจากกล้องถ่ายภาพด้านหน้า ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI Beauty พร้อมปรับค่าอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI Beauty พร้อมปรับค่าระดับ 6
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ Portrait แบบปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ Portrait ฟังก์ชัน 3D Lighting
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AR Sticker
สรุปผลการทดสอบ
จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิว OPPO Find X สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ OPPO ซึ่งจากการทดสอบก็ต้องบอกเลยว่า OPPO Find X นั้นถือเป็นการกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ ดีไซน์ตัวเครื่องที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Unified Design พร้อมกระจกไร้รอยต่อแบบ Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง การลงสีแบบ Gradient Design ที่ไล่เฉดสีแบบ 3D จึงทำให้ตัวเครื่อง OPPO Find X มีความหรูหราพรีเมียมน่าใช้งานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ทางด้านกล้องถ่ายภาพด้านหน้า และด้านหลัง ยังมีดีไซน์แบบ Stealth 3D Cameras ที่สามารถเลื่อนขึ้นแบบอัตโนมัติเมื่อมีการเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ อีกทั้งยังช่วยปกป้องตัวกล้องถ่ายภาพจากกระกระทบ หรือกระแทกสิ่งต่างๆ ได้อีกด้วย
สำหรับกล้องดิจิทัลทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล ก็ทำงานร่วมกับ AI ได้ดี สามารถแยกแยะวัตถุที่ต้องการถ่ายภาพได้อย่างแม่นยำ และปรับค่าของกล้องให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพขณะนั้นได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันการเล่นแสงอย่าง 3D Lighting ให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้หลากหลายมากขึ้นได้ และที่สำคัญคือ มีการใช้ AI Beauty ทำงานร่วมกับกล้องถ่ายภาพด้านหลัง ซึ่งเมื่อถ่ายภาพออกมาก็จะได้ภาพถ่ายที่ตัวแบบมีผิวเนียนขาวเนียนดูเป็นธรรมชาติ ในส่วนของกล้องถ่ายภาพด้านหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ก็ตอบโจทย์ในเรื่องของการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่ง AI Beauty ของกล้องดิจิทัลด้านหน้าจะมีฟังก์ชันสแกนใบหน้าของผู้ใช้ พร้อมทำการประมวลผลผ่าน AI และปรับค่าบนใบหน้าของตัวแบบให้เหมาะสมมากที่สุด นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งาน 3D Lighting ในการถ่ายภาพเซลฟี่แบบเล่นแสง พร้อมเบลอฉากหลังสวยๆ ได้เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น ในโหมด AR Sticker ผู้ใช้ยังสามารถสร้างอวตารเป็นของตนเอง พร้อมทำการส่งผ่านทางแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กไปอวดเพื่อนๆ ได้อีกด้วย บอกได้เลย ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพจะต้องถูกใจกล้องดิจิทัลทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ของ OPPO Find X อย่างแน่นอน
ทางด้านหน้าจอแสดงผลแบบ Panoramic Arc Screen AMOLED ก็สามารถแสดงผลออกมาได้คมชัดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอัตราส่วน 19.5:9 บนขนาด 6.4 นิ้ว โดยมีพื้นที่การแสดงผลมากถึง 93.8% ซึ่งจากการทดสอบดูซีรี่ส์ที่ชื่นชอบ บอกได้เลยว่า สามารถรับชมวิดีโอดังกล่าวได้อย่างเต็มตามากๆ นอกจากนี้ OPPO Find X ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3730 mAh ยิ่งช่วยให้ชมซรี่ส์เพลินๆ ต่อเนื่องหลายตอนแบบไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดแต่อย่างใด
อีกหนึ่งความพิเศษบน OPPO Find X คือสเปกเครื่องที่ทาง OPPO นั้นจัดเต็มมาให้แบบไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต 64-Bit Octa-Core Qualcomm Snapdragon 845 (มีหน่วยประมวลผล AI Engine โดยเฉพาะ), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 603, หน่วยคววามจำแรมขนาด 8 GB และหน่วยความจำรอมขนาด 256 GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo บอกได้เลยว่า จากการทดสอบด้วยการเล่นเกม PUBG Mobile พร้อมปรับค่าความละเอียด กับค่าเฟรมเรตระดับสูงสุด OPPO Find X ก็ยังสามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น ซึ่งไม่ใช่แค่เกมเดียวเท่านั้น ทางด้านเกมรถแข่งยอดฮิตที่มีกราฟิกสวยๆ อย่าง Asphalt 9 ก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ แบบไร้ซึ่งอาการหน่วงให้พบเจอ ส่วนตัวเครื่องขณะที่เล่นเกมแบบต่อเนื่องก็พบว่ามีอาการสะสมความร้อนบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด
โดยสรุปแล้ว OPPO Find X ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ครบเครื่อง สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องมีการประมวลผลระดับสูงต่างๆ ได้อย่างครบครัน อีกทั้งยังมีกล้องดิจิทัลที่สามารถถ่ายภาพได้หลากหลาย พร้อมฟีเจอร์ลูกเล่นสำหรับถ่ายภาพมากมาย, มีจอแสดงที่กว้างเต็มตา แสดงผลได้อย่างคมชัด, ตัวเครื่องดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย และสเปกเครื่องก็ได้เล่นกราฟิกระดับสูงได้แบบไหลลื่น และวางจำหน่ายในราคา 29,990 บาท ซึ่งก็ถือว่าสมเหตุสมผลไม่น้อยเลยทีเดียว
หากท่านใดที่สนใจก็สามารถสั่งจอง OPPO Find X ผ่านทาง OPPO Brand Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ไปจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งผู้ที่สั่งจอง OPPO Find X จะได้รับของแถมสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง Marshall Major Bluetooth, VIP Card ประกันหน้าจอแตกนานถึง 1 ปี, ชุดขาตั้งกล้อง และที่ชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงสำหรับใช้ในรถยนต์ ส่วน OPPO Find X Automobili Lamborghini Edition จะวางจำหน่ายในราคา 49,990 บาท ซึ่งจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายนครับ