เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับ OPPO F11 Pro Marvel’s Avengers Limited Edition ซึ่งนอกจากลวดลายตัว “A” สีแดงที่ฝาหลังอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว
ด้านฮาร์ดแวร์ยังมีการอัปเกรดบางอย่างด้วยเช่นกัน ได้แก่ และแน่นอนว่า ทางทีมงาน StepGeek.TV ก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวของ OPPO F11 Pro Marvel’s Avengers Limited Edition ด้วยเช่นกัน จึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพพรีวิวตัวเครื่อง ราคา และโปรโมชันมาฝากให้ทุกท่านรับทราบ หากทุกท่านพร้อมกันแล้ว ไปรับชมกันได้เลย
สเปกเครื่องแบบคร่าวๆ ของ OPPO F11 Pro Marvel’s Avengers Limited Edition
– ดีไซน์ตัวเครื่องลวดลายตัว “A” สีแดงที่ฝาหลังอันเป็นเอกลักษณ์
– หน้าจอแสดงผลแบบ LTPS TFT Panoramic Screen ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล ในอัตราส่วน 19.5:9 บนขนาด 6.5 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่การแสดงผลมากถึง 90.90%
– ใชชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek Helio P70 พร้อมรองรับเทคโนโลยี Hyper Boost สำหรับรีดเร้นศักยภาพตัวเครื่องให้ทำงานประสิทธิภาพสูงสุด
– หน่วยความจำแรมขนาด 6 GB
– หน่วยความจำภายในขนาด 128 GB
– ใช้ระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 9.0 Pie พร้อมครอบทับด้วย ColorOS เวอร์ชัน 6.0
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าเป็นแบบ Rising ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.1 นิ้ว ที่มีเม็ดพิกเซลขนาด 1 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0, รองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty
– กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) โดยกล้องตัวแรกมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.25 นิ้ว ที่มีเม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.79 ส่วนกล้องตัวที่สองมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/5 นิ้ว ที่มีเม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.4 นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังยังใช้โครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์, รองรับระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, รองรับเทคโนโลยี Ball-bearing Closed-loop VCM ช่วยขยับกล้องให้ตรงกับวัตถุโฟกัส เพื่อให้โฟกัสได้รวดเร็ว และโฟกัสแม่นยำมากยิ่งขึ้น, รองรับเทคโนโลยี AI Scene กับ AI Ultra-Clear Engine, รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait, รองรับโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Ultra Night Mode) และมีไฟแฟลช LED
– รองรับระบบสแกนใบหน้า กับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– แบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูง (VOOC Flash Charge 3.0) ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 20% และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็ม 100% ภายในเวลา 80 นาที
พรีวิว OPPO F11 Pro Marvel’s Avengers Limited Edition
OPPO F11 Pro มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ LTPS TFT Panoramic Screen ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล ในอัตราส่วน 19.5:9 บนขนาด 6.5 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่การแสดงผลมากถึง 90.90% ซึ่งมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 161.3×76.1×8.8 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 190 กรัม
ด้านหน้าส่วนบนลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, และเซ็นเซอร์ต่างๆ ส่วนด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps
ด้านบนของเครื่องมีกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบ Rising Camera ที่เลื่อนขึ้น-ลง เพื่อเก็บเข้าไปในตัวเครื่องได้ โดยความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.1 นิ้ว ที่มีเม็ดพิกเซลขนาด 1 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0, รองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty และไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกเสียง หรือบันทึกวิดีโอ
ด้านล่างของเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร. ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB และลำโพงเสียงำายนอก
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และถาดใส่ซิมการ์ด
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง
ด้านหลังของเครื่องมีกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) โดยกล้องตัวแรกมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.25 นิ้ว ที่มีเม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.79 ส่วนกล้องตัวที่สองมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/5 นิ้ว ที่มีเม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.4 นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังยังใช้โครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์, รองรับระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, รองรับเทคโนโลยี Ball-bearing Closed-loop VCM ช่วยขยับกล้องให้ตรงกับวัตถุโฟกัส เพื่อให้โฟกัสได้รวดเร็ว และโฟกัสแม่นยำมากยิ่งขึ้น, รองรับเทคโนโลยี AI Scene กับ AI Ultra-Clear Engine, รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait, รองรับโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Ultra Night Mode) และมีไฟแฟลช LED
นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูง (VOOC Flash Charge 3.0)
ราคา และวันวางจำหน่าย
สำหรับ OPPO F11 Pro Marvel’s Avengers Limited Edition เปิดราคาออกมาที่ 12,990 บาท พร้อมเปิดรับจองทั้งหมด 3 รอบด้วยกัน คือ รอบที่ 1 วันที่ 24-28 เมษายน 2562 รับเครื่องวันที่ 1 พฤษภาคม, รอบที่ 2 วันที่ 2-9 พฤษภาคม 2562 รับเครื่องวันที่ 12 พฤษภาคม และรอบที่ 3 วันที่ 13-23 พฤษภาคม 2562 รับเครื่องวันที่ 26 พฤษภาคม นอกจากนี้ ผู้ที่สั่งจองยังจะได้รับ Gift Set และ Movie Ticket อีกด้วย
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV