รีวิว OnePlus Nord 2 5G ประสิทธิภาพเทียบเท่าเรือธง สเปคจัดเต็ม ชิป Dimensity 1200-AI ขายในราคาย่อมเยา เริ่มต้น 17,990 บาท

เป็นระยะเวลาเกือบจะหนึ่งเดือนเต็มๆ ที่ทางวันพลัสได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนมิดเรนจ์รุ่นใหม่อย่าง OnePlus Nord 2 5G เวอร์ชั่น Global เรียบร้อยแล้ว ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 399 ยูโร ที่มาพร้อมกับสเปคทุกอย่างในระดับพรีเมี่ยมเทียบเท่ากับสมาร์ตโฟนเรือธง แต่ขายในราคาที่ย่อมเยากว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดีไซน์, การใช้วัสดุและฮาร์ดแวร์ในราคาที่เอื้อมถึง ยิ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ยิ่งทำให้ใครหลายคนต่างก็สนใจสมาร์ตโฟนในราคาดั่งเพื่อนและมาพร้อมกับสเปคที่จัดเต็ม สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นไหลและไม่หน่วง อีกทั้งจุดเด่นของ OnePlus Nord 2 5G นั้น มีอยู่มากมายหลายอย่าง ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้หรืออาจจะอยู่ในช่วงชั่งใจอยู่ว่าจะเลือกซื้อดีหรือไม่?? ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของคนทั่วไปที่จะนำรุ่นนั้นมาเปรียบเทียบกับรุ่นนี้ หรือเอารุ่นนี้ไปเปรียบเทียบกับรุ่นนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลอยู่ดี แต่ในครั้งนี้ ทาง OnePlus เอง ซึ่งเป็นผู้พัฒนาสมาร์ตโฟนนักฆ่าเรือธง (Flagship Killer) ที่ได้ประสบความสำเร็จกับสมาร์ตโฟนมิดเรนจ์ที่เพียบพร้อมไปด้วยสเปคระดับพรีเมี่ยมอย่าง OnePlus รุ่นแรก ทั้งในตลาดยุโรป, อเมริกาเหนือและอินเดีย จนต้องมีการพัฒนารุ่นต่อมาอย่าง OnePlus Nord 10 5G และ Nord 100 อย่างที่เราได้เห็นและได้สัมผัสกันไปแล้ว

ซึ่งตัว Nord ล่าสุด ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดไทยนั่นก็คือ วันพลัส Nord 2 5G ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนที่ได้รับการพัฒนาและต่อยอดมาจาก วันพลัส Nord รุ่นแรก และทางแบรนด์วันพลัสเองก็ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมให้กับคนทั่วโลก ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนและสามารถมอบประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยมบนสมาร์ตโฟนระดับมิดเรนจ์หรือระดับกลางให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น งานนี้ ทางวันพลัสจึงได้จัดเต็มที่พร้อมเปิดประสบการณ์ในการใช้งานและการเล่นเกมที่เร็วแรงและมีความลื่นไหลมากกว่าที่เคย หมดกังวลเรื่องความหน่วงหรือเครื่องอืดไปได้เลย มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI บอกได้เลยว่าชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI นั้น แบรนด์วันพลัสเป็นแบรนด์เดียวที่ได้ร่วมมือกับ MediaTek เพื่อพัฒนาให้สมาร์ตโฟนนั้นมีความเร็วแรงมากขึ้นกว่าที่เคย ให้ประสิทธิภาพของ CPU และ GPU เร็วขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับ วันพลัส Nord รุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมา อีกทั้ง ทางวันพลัสยังได้ใส่ใจและมีการปรับปรุงคุณสมบัติ A.I. ของระบบประมวลผล เน้นย้ำในเรื่องความสามารถของ A.I. ใหม่ล่าสุดที่ทาง วันพลัส และ MediaTek ได้เลือก ทั้งนี้ Dimensity 1200-AI นั้นจะมีความพิเศษและมีความแตกต่างจากชิป Dimensity 1200 มาตรฐานทั่วไปจากท้องตลาดอย่างสิ้นเชิง

นี่เป็นเพียงแค่รายละเอียดส่วนหนึ่งของวันพลัส Nord 2 5G หรือจะเรียกได้ว่าเป็นแค่น้ำจิ้มเล็กๆ เท่านั้นที่ทางวันพลัสได้ยัดเข้ามาอยู่ในเครื่อง Nord 2 5G เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพการถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังมาพร้อมกับ A.I. Camera, แบตเตอรี่ที่รองรับชาร์จเร็ว Warp Charge ที่ 65 วัตต์, รันระบบปฏิบัติการด้วย OxygenOS 11.3 และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในวันนี้ ทางทีมงาน StepGeek จะมารีวิว OnePlus Nord 2 5G ว่าการใช้งานของรุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทางวันพลัสได้ยัดเข้ามาใช้งานบนสมาร์ตโฟนนั้นสามารถทำได้ดีอย่างที่ได้เคลมไว้หรือไม่ อีกอย่างชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษและนำมาใช้เฉพาะกับวันพลัส Nord 2 5G นั้นจะลื่นปรี๊ดอย่างที่พูดไว้หรือไม่ ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว…..อินโทรมา ตื๊ดๆๆๆๆๆๆ

ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด พอดีมือและน้ำหนักเบาสบายมือ

ก่อนอื่นเลย เรามาพูดถึงเรื่องการออกแบบหรือการดีไซน์ตัวเครื่องวันพลัส Nord 2 5G กันก่อนเลย ซึ่งทางวันพลัสเองก็ให้ความสำคัญของเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มันก็เหมือนกับการเขียนคิ้ว เพราะคิ้วคือมงกุฏของใบหน้านั่นแหละ ซึ่งการดีไซน์ของวันพลัส Nord 2 5G นั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติผสานกับบอดี้โลหะพรีเมียมที่เงางาม ทำให้รู้สึกถึงความเรียบลื่นที่มีสไตล์

หลังจากที่เราได้เครื่องมาแล้ว มีความรู้สึกประทับใจกับการดีไซน์ของรุ่นนี้ในระดับนึงเลยนะ!! โดยทางวันพลัสเองก็ใส่ใจถึงการออกแบบตัวเครื่องเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดของตัวเครื่องและน้ำหนักของตัวเครื่อง ซึ่งโดยปกติแล้ว ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ล้วนทำงานผ่านบนสมาร์ตโฟนไปแล้วเกือบ 90% อีกทั้ง ไม่เพียงเฉพาะแต่ทำงานผ่านบนสมาร์ตโฟนอย่างเดียวเท่านั้น ยังเล่นเกม, ดูวิดีโอหรือจะดูหนังล้วนถือสมาร์ตโฟนอยู่ในมือซะส่วนใหญ่ ถ้าหากตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักที่หนักจนเกินไป จะทำให้มือนั้นเกิดอาการเมื่อยล้า ส่วนขนาดของตัวเครื่องก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของผู้ใช้งาน ขนาดของตัวเครื่องวันพลัส Nord 2 5G อยู่ที่ 159.12 x 73.31 x 8.25 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 189 กรัม ซึ่งขนาดตัวเครื่องนั้น ถือว่าไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ตัวเครื่องมีความกะทัดรัด เมื่อเราถือใช้งานหรือเล่นเกม ตัวเครื่องก็สอดรับกับฝามือได้เป็นอย่างดี ถือว่าการออกแบบตัวเครื่องนั้น ให้คะแนนแบบผ่านฉลุยไปเลยจ๊ะ

และอีกสิ่งหนึ่งที่มีคนตั้งคำถามอยู่ตลอดเวลานั่นก็คือ ฝาหลังของตัวครื่องวันพลัส Nord 2 5G นั้น จะมีรอยนิ้วมือของเราเปื้อนหรือไม่?? ซึ่งคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ล้วนเจอทุกครั้งที่มีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ไม่เพียงแต่แบรนด์ OnePlus เท่านั้นนะ แบรนด์อื่นๆ ก็โดนตั้งคำถามแบบนี้เสมอมา ซึ่งเอาจริงๆ ฝาหลังที่เกิดจากรอยนิ้วมือเป็นเรื่องปกติเลย อยู่ที่ว่ารุ่นนั้นๆ จะใช้วัสดุอะไร แต่ถ้าไม่อยากให้เกิดรอยนิ้วมือมาให้ต้องรำคาญใจแนะนำเลยให้ใส่เคสที่ทางแบรนด์แถมมาให้ใส่ประกบด้านหลังของตัวเครื่องไปได้เลยจะได้ไม่ต้องเห็นรอยนิ้วมือที่เปื้อนเต็มไปหมดอยู่ที่ฝาหลัง แต่ก็จะบดบังการดีไซน์ของตัวเครื่อง  

สำหรับฝาหลังของ OnePlus Nord 2 5G นั้น หมดปัญหาเรื่องรอยนิ้วมือไปได้เลย ซึ่งตัวเครื่องที่เรารีวิวนั้นเป็นสีฟ้า Blue Haze (รุ่น 8GB + 128GB) ที่ใช้วัสดุพรีเมียม ซึ่งจะช่วยในการป้องกันปัญหารอยนิ้วมือที่จะเกิดขึ้นบนฝาหลังและครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่มีการผ่านทดสอบให้ตกจากที่สูง 1.6 เมตร (ประมาณหัวไหล่ของเรา) หล่นลงพื้นผิวที่ขรุขระก็พบว่า มันสามารถป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องแตกได้มากถึง 80% เมื่อเทียบกับ Gorilla Glass 4 ที่ป้องกันได้เพียง 1 เมตรเท่านั้นเองและต้องบอกก่อนว่า Gorilla Glass หรือกระจกลิงที่รู้จักกันเป็นอย่างดีนั้น ถูกนำไปใช้สมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์อยู่หลายรุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้น OnePlus Nord 2 5G ก็ได้ใช้กระจก Gorilla Glass 5 ด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนระดับมิดเรนจ์แต่ความอึดก็พอตัวอยู่นะจ๊ะ

รอบตัวเครื่องวันพลัส Nord 2 5G จะมีปุ่มกดเพิ่ม-ลดระดับเสียงที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ด้านขวาจะมีปุ่ม Alert Slider สามารถเลื่อนขึ้น-ลงได้ ประกอบไปด้วย เปิดเสียง, สั่นและปิดเสียง ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง มีช่องใส่ซิมการ์ด, ไมโครโฟน, พอร์ต USB-C สามารถถ่ายโอนข้อมูลต่างๆ และชาร์จแบตเตอรี่ได้ ถัดมาจะเป็นช่องลำโพงที่ดังกระหึ่มมาก และด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นรูไมโครโฟนเพียงตัวเดียว

หน้าจอขนาดใหญ่ 6.43 นิ้ว ดูหนัง-เล่นเกมได้อย่างเต็มตาเต็มจอและมีความคมชัด

มาต่อกันที่เรื่องหน้าจอแสดงผลของวันพลัส Nord 2 5G กันดีกว่า หน้าจอแสดงผลเป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับผู้ใช้งาน ถ้าหากขนาดของหน้าจอเล็กเกินไป แน่นอนว่า ต้องมีหลายคนโบกมือลา ซึ่งในรุ่นวันพลัส Nord 2 5G ก็สามารถทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ผิดหวัง ในขณะที่เราเขียนรีวิวอยู่นั้น เราก็ดูหนังผ่านบนเครื่องวันพลัส Nord 2 5G ไปด้วย บอกเลยว่า หน้าจอที่ทางวันพลัสให้มา ไม่ได้เล็กเลยนะ ดูได้แบบไม่ขัดตาเลยแหละ ด้วยหน้าจอขนาด 6.43 นิ้ว แบบ Fluid AMOLED ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ความหนาแน่นของพิกเซล 410 ppi และมาพร้อมกับ A.I. Optimized Display จอรีเฟรชเรท 90Hz ถึงแม้ว่าจะมีจอรีเฟรชเรทที่ 90Hz แต่ก็ยังคงให้ความลื่นไหลเป็นอย่างมาก ไม่น้อยไปกว่าหน้าจอที่มีค่ารีเฟรชเรท 120Hz เลยนะ เพราะเมื่อเราได้ทดสอบในการเล่นเกมแล้ว คือ มันไม่พบกับคำว่าหน่วงเลย ลื่นมาก คือกดปุ๊บยิงปั๊บ หาคำว่าหน่วงแทบจะไม่มี และไม่กระตุกเลยด้วยซ้ำ โอ้โหหหหวววว อะไรจะขนาดนั้นเชียว!!!! คือลื่นทะลุจอ

อีกทั้ง หน้าจอแสดงผลยังให้สีสันที่สวยงามมาก แจ่มชัดเจน ได้อรรถรสในการดูหนังหรือดูซีรี่ส์เป็นอย่างมาก เพราะด้วยประสิทธิภาพด้าน A.I. ทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์ A.I. Color Boost ที่ช่วยในการเร่งสีของภาพระหว่างที่เราดูวิดีโอแบบเรียลไทม์และดูสดสมจริงมากยิ่งขึ้น เอออ…อออ คือมันเจ๋งนะ กับราคาที่ย่อมเยา ขายในราคาเริ่มต้นที่ 17,990 บาทและยังมี A.I. Resolution Boost ที่จะช่วยในการปรับปรุงสีและยกระดับความละเอียดจากแอปฯ ยอดนิยมต่างๆ แน่นอนว่า ทาง OnePlus ได้ใส่ใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ ที่มอบประสบการณ์ภาพที่สดใสและใช้งานได้อย่างลื่นไหลมากยิ่งขึ้น แถมมาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอคู่ที่ดังกระหึ่มซะเหลือเกิน สิ่งที่ได้ในขณะที่ดูหนังนั่นก็คือ หน้าจอสีที่สดมากและลำโพงสเตอริโอคู่ที่ฟาดเสียงมาได้อย่างน่าประทับใจ

สำหรับการใช้งานทั่วไปบนหน้าจอแสดงผลวันพลัส Nord 2 5G นั้น สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลและใช้งานได้เป็นอย่างดี หมดปัญหาเรื่องการทัชช้า ที่หลายคนอาจจะบ่นกับสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นๆ ว่า เกิดอาการทัชไม่ติดมือเลย พอเล่นเกมแล้วกระตุก หน่วงเหลือเกิน ทัชช้า แต่วันพลัส Nord 2 5G เป็นหนึ่งสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจ สามารถเต็มที่กับทุกการใช้งานจริงๆ โดยเฉพาะการเล่นเกมที่เต็มสปีดแบบจัดเต็มทุกสนามที่ลงแข่ง

และมีอีกส่วนหนึ่งกับคำถามที่ว่า หน้าจอของวันพลัส Nord 2 5G นั้น มีรูบริเวณซ้ายบนของหน้าจอสำหรับวางกล้องหน้านั้น มีผลกระทบต่อการดูหนังหรือเล่นเกมหรือไม่ ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ เลยนะ ไม่ค่อยจะมีปัญหากับเรื่องของการเจาะรูกลมๆ บนหน้าจอซะเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเจาะรูกึ่งกลางบนหรือด้านซ้ายก็ตามแต่… เพราะทุกครั้งที่เล่นเกมหรือดูหนัง ดูซีรี่ส์ ก็สามารถดูได้อย่างสบายใจ ไม่รู้สึกว่าเจ้ารูนั้นจะเป็นอุปสรรคหรือจะไปเกะกะสายตาในขณะที่ดูหนังหรือใช้งานเลยแม้แต่น้อย

สเปค วันพลัส Nord 2 5G

• ขนาดตัวเครื่อง 159.12 x 73.31 x 8.25 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 189 กรัม
• หน้าจอแสดงผลแบบ Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) จอรีเฟรชเรท 90Hz ความหนาแน่นของพิกเซล 410ppi อัตราส่วนของจอ 20:9 และมาตรฐานแสดงผลเฉดสี sRGB, Display P3
• ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI
• GPU ARM G77 MC9
• RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR4X
• ROM 128GB/256GB แบบ UFS 3.1
• กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.88 รองรับกันสั่น OIS + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119.7 องศา และรองรับกันสั่น EIS + เลนส์ mono ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 อีกทั้ง ยังรองรับ โหมด Nightscape, Super Macro, UltraShot HDR, Portrait, Panorama, Pro Mode, Smart scene recognition
• รองรับการถ่ายวิดีโอกล้องหลังความละเอียด 4K ที่ 30fps และ 1080p ที่ 30/60fps รวมทั้งยังรองรับการถ่ายด้วยโหมด AI Photo Enhancement, AI Video Enhancement, Dual View Video
• กล้องหน้า ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 มาพร้อมกับเซนเซอร์ IMX615, รองรับกันสั่น EIS และมาพร้อมกับฟีเจอร์ Group Shots 2.0
• รองรับการถ่ายวิดีโอกล้องหน้า ความละเอียด 1080p / 720p ที่ 30fps และรองรับการถ่ายโหมด Time-Lapse
• แบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับชาร์ตเร็ว Warp Charge 65 วัตต์
• รองรับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย OxygenOS 11.3
• มีพอร์ต USB-C 2.0
• รองรับลำโพงสเตอริโอคู่และมีระบบตัดเสียงรบกวน Noise cancellation support
• รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4G/5G, 2*2MIMO
• รองรับ Wi-Fi 6
• รองรับ Bluetooth 5.2
• เซนเซอร์ : In-display fingerprint sensor Accelerometer Electronic compass Gyroscope Ambient light sensor SAR Sensor Proximity sensor Sensor core
• มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Blue Haze และสีเทา Grey Sierra

อุปกรณ์ภายในกล่อง (ไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม)

• ตัวเครื่องวันพลัส Nord 2 5G (ตัวเครื่องสีฟ้า Ble Haze)
• ฟิล์มกันรอยบนหน้าจอ (ติดมาให้จากโรงงาน)
• คู่มือการใช้งาน
• สายชาร์จ
• อะแดปเตอร์
• เคสซิลิโคนนิ่ม

จุดเด่นที่น่าสนใจ

จุดเด่นที่สนใจของวันพลัส Nord 2 5G นั้นมีอยู่มากมาย ก็อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่แรกซึ่งนั่นเป็นเพียงน้ำจิ้มเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และไม่เพียงแต่จะใช้งานในชีวิตประจำวันที่แค่ ถูๆ ไถ่ๆ บนโลกโซเชียล แต่ยังสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล มาพร้อมกับสเปคที่แบบว่าจัดเต็มเทียบเท่าสมาร์ตโฟนระดับเรือธง แต่ราคาที่ย่อมเยากว่า แถมยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 1200-AI ซึ่งเป็นตัวเอกของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยทางวันพลัสเองก็ใส่ใจและพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีเหล่านี้ ใส่เข้ามาอยู่ในวันพลัส Nord 2 5G ซึ่งไม่เพียงแต่ชิปเซ็ต Dimensity 1200-AI เท่านั้น ยังมอบการอัปเกรดที่ทรงพลังมากขึ้นจาก วันพลัส Nord รุ่นแรก ที่ครอบคลุมตั้งแต่ประสิทธิภาพของระบบกล้องจนไปถึงการชาร์จและการออกแบบของตัวเครื่องเลย

• การออกแบบตัวเครื่องที่เน้นความเรียบง่าย แต่ดูหรู และได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติผสานกับบอดี้โลหะพรีเมียมที่เงางาม ทำให้ไม่เห็นรอยนิ้วมือ อีกทั้ง ฝาหลังยังครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass สามารถป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องแตกได้มากถึง 80% เมื่อเทียบกับ Gorilla Glass 4 ที่ป้องกันได้เพียง 1 เมตรเท่านั้นเอง
• มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรชเรท 90 Hz พร้อมด้วยคุณสมบัติใหม่ อย่าง A.I. Color Boost และ A.I. Resolution Boost ซึ่งปรับปรุงสีและยกระดับความละเอียดจากแอปฯ ยอดนิยมต่าง ๆ มอบประสบการณ์ภาพที่สดใสและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

• ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI ที่ได้รับการปรับแต่งพิเศษ ใช้งานเฉพาะวันพลัส Nord 2 5G ที่ทำให้สมาร์ตโฟนนั้นมีความเร็วแรงมากขึ้นกว่าที่เคย ให้ประสิทธิภาพทั้ง CPU และ GPU เร็วขึ้นกว่าเดิม 65% และ 125% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับวันพลัส Nord รุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมา

• สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ซึ่งในรุ่นวันพลัส Nord 2 5G นั้นได้รวมฮาร์ดแวร์ระดับเรือธงยัดใส่ไว้ในเครื่องเดียว โดยกล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ที่มาพร้อมกับ A.I. Camera โดยกล้องหลัก มาพร้อมกับเซนเซอร์ IMX766 ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.88 รองรับกันสั่น OIS โดยเซนเซอร์ IMX 766 นั้น สามารถจับแสงได้มากกว่า IMX586 ที่มีอยู่ใน OnePlus Nord รุ่นแรกถึง 56%  + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119.7 องศา และรองรับกันสั่น EIS + เลนส์ mono ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 อีกทั้ง ยังรองรับ โหมด Nightscape Ultra, Super Macro, UltraShot HDR, Portrait, Panorama, Pro Mode, Smart scene recognition

• กล้องหน้า มาพร้อมกับเซนเซอร์ IMX615 ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ซึ่งความละเอียดนั้นสูงที่สุดในแบรนด์ OnePlus เลย และมาพร้อมกับฟีเจอร์ Group Shots 2.0 ที่สามารถจับตรวจใบหน้าได้สูงสุดถึง 5 ใบหน้าในแต่ละครั้งและช่วยปรับลักษณะต่างๆ ตั้งแต่โทนสีผิวไปจนถึงรายละเอียดของใบหน้าเพื่อให้ได้ภาพที่สวยมากยิ่งขึ้น

• มาพร้อมกับประสิทธิภาพด้าน A.I. ที่ช่วยเร่งการประมวลผลได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น A.I. Photo Enhancement ที่สามารถจดจำสถานการณ์การถ่ายภาพที่แตกต่างกันได้ถึง 22 สถานการณ์, A.I. Video Enhancement ที่ช่วยปรับปรุงความสว่าง, สีและคอนทราสต์ของการบันทึกวิดีโอได้แบบเรียลไทม์, โหมด Nightscape Ultra ที่ประมวลผลภาพกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและ Dual View Video สำหรับบันทึกวิดีโอกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน
• แบตเตอรี่เซลล์คู่ขนาด 4,500 mAh พร้อมด้วยเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Warp Charge 65 วัตต์ ที่สามารถชาร์จจาก 0-100% ภายในระยะเวลาเพียง 35 นาที และยังมีระบบปรับเพื่อลดเวลาที่ใช้แบตเตอรี่ 100% เพื่อรักษาคุณภาพแบตเตอรี่ที่ดีในขณะที่ชาร์จข้ามคืนอีกด้วย

• วันพลัส Nord 2 5G รันด้วยระบบปฏิบัติการด้วย OxygenOS 11.3 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่เร็วและตอบสนองไวที่สุดของวันพลัส จนถึงปัจจุบัน OxygenOS ได้มีการปรับปรุงที่สำคัญ เช่น Dark Mode, Zen Mode, การใช้งานมือเดียวที่สะดวกสบาย และตัวเลือก Always on Display (AOD) ที่หลากหลาย รวมไปถึงการพัฒนาให้ตอบโจทย์การเล่นเกมมากยิ่งขึ้น เช่นแอป OnePlus Games ใหม่บน OxygenOS 11.3

• ลำโพงสเตอริโอคู่ที่สมบูรณ์เพื่อประสบการณ์เสียงที่สมจริง รวมทั้งมีระบบสั่น Haptics 2.0 เพื่อให้การตอบสนองที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น
• วันพลัส Nord 2 5G จะได้รับการอัปเดต Android ที่สำคัญถึง 2 ปีและได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อให้สมาร์ทโฟนสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นตลอดเวลาเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงวันพลัสทั้งหมด

ประสิทธิภาพการใช้งานวันพลัส Nord 2 5G ใช้ชิป Dimensity 1200-AI

ณ ปัจจุบัน ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนต้องคิดและวางแผนในการพัฒนาสมาร์ตโฟนออกมาเพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ซึ่งสมาร์ตโฟนหนึ่งเครื่องต้องสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่าคำว่าโทรและส่งข้อความ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ต้องจบและครบทุกอย่างในเครื่องเดียวนั่นเอง

ด้วยสมาร์ตโฟนระดับมิดเรนจ์ที่รองรับเครือข่าย 5G อย่างวันพลัส Nord 2 5G รุ่นใหม่นั้น ได้ใช้ชิปเซ็ต MediaTek เป็นรุ่นแรก ซึ่งจากเดิมต้องพึ่งพาบริการจาก Qualcomm มาอย่างยาวนาน โดยในรุ่นนี้ได้เลือกใช้เป็นชิปเซ็ต Dimensity 1200-AI  ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ โดยทางวันพลัสได้จับมือกับ MediaTek เพื่อพัฒนาให้สมาร์ตโฟนวันพลัส Nord 2 5G มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็น ประสิทธิภาพของ CPU ที่เร็วมากขึ้นถึง 65% และประสิทธิภาพของ GPU ที่แรงขึ้นถึง 125% ซึ่งการทำงานโดยรวมแล้ว เมื่อเทียบกับวันพลัส Nord รุ่นแรกที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมา ถือว่าทางวันพลัสทำออกมาได้เป็นอย่างดีและดีกว่าชิป Diemensity 1200 รุ่นปกติอีกต่างหาก

ส่วนการใช้งานบนวันพลัส Nord 2 5G ไม่ว่าจะเล่นโซเชียล, ดูหนัง, ดูซีรี่ส์, เล่นเกมหรือแม้กระทั้งทำงานบนสมาร์ตโฟนก็รู้สึกประทับใจ ด้วยความที่มีเทคโนโลยีของ A.I. เข้ามาช่วย จึงทำให้สมาร์ตโฟนวันพลัส Nord 2 5G นั้นมีการลื่นไหล ทัชติดมือ การใช้งานไม่มีคำว่าหน่วงเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วมือสไลด์หรือสัมผัสไปบนหน้าจอ ก็สามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องย้ำทัชเลย

ทั้งนี้ ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI นั้นนำมาใช้กับวันพลัส Nord 2 5G โดยเฉพาะ เพื่อเสริมศักยภาพด้าน A.I. อย่างเต็มที่ และสามารถทำคะแนนทดสอบ AI บน AnTuTu ไปได้ 693,439 คะแนน ที่สามารถทำคะแนนสูงกว่าวันพลัส Nord รุ่นแรก ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 1200 ที่ทำไปได้ 373,632 คะแนน อีกทั้ง ยังทำคะแนนสูงกว่าชิปเรือธงของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 888 อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ RAM แบบ LPDDR4X ที่สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกประเภทได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกมหรือจะถ่ายรูปก็ตามแต่ ที่สามารถรีดประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเร็ว แรงและประหยัดพลังงานมากขึ้น ส่วนเรื่องความแรงนั้นอยู่ในระดับที่พอใช้ได้เลยแหละ สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ ได้อย่างสบายๆ  และ ROM แบบ UFS 3.1 สำหรับติดตั้งแอปพลิเคชั่นต่างๆ, เก็บรูปภาพในความทรงจำ, คลิปวิดีโอและเก็บไฟล์ต่างๆ ได้อย่างเพียงพอและพอเพียงต่อความต้องการกันแบบจุกๆ ไปเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนที่ชอบแชะภาพไปในทุกๆ ที่ และต้องการเก็บภาพในความทรงจำต่างๆ

อีกทั้ง วันพลัส Nord 2 5G รันด้วยระบบปฏิบัติการด้วย OxygenOS 11.3 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่เร็วและตอบสนองไวที่สุดของวันพลัส จนถึงปัจจุบัน OxygenOS 11 ได้มีการปรับปรุงที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Dark Mode, Zen Mode, การใช้งานมือเดียวที่สะดวกสบาย และตัวเลือก Always on Display (AOD) ที่หลากหลาย รวมไปถึงการพัฒนาในครั้งนี้ ก็ตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ชื่นชอบในการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น อย่าง แอปฯ วันพลัส Games ใหม่บน OxygenOS 11.3

แถม OnePlus Nord 2 5G มีการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อประสบการณ์โดยรวมที่ดียิ่งขึ้น ด้วยช่องใส่ซิมการ์ด 5G สองช่องและความเร็วในการดาวน์โหลด 5G สูงสุด 2.9.5 Gbps ทำให้ OnePlus Nord 2 5G รองรับอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ตโฟนที่เสถียรและเชื่อถือได้

ประสิทธิภาพในการเล่นเกมบนวันพลัส Nord 2 5G

หลายคนหันมาเล่นเกมบนสมาร์ตโฟนมากขึ้น เพราะด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น, สเปคที่จัดเต็มและแบตเตอรี่ที่มีความอึด แถมยังรองรับชาร์จเร็วอีกต่างหาก จึงทำให้ตลาดสมาร์ตโฟนนั้นมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงผู้ผลิตสมาร์ตโฟนเองก็ไม่ได้หยุดที่จะคิดค้นสิ่งใหม่ๆ หรือนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ยัดเข้ามาใส่บนสมาร์ตโฟนของตัวเอง เหมือนกับแบรนด์ OnePlus ที่มุ่งมั่นและพร้อมที่นำเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมมาใส่บนสมาร์โฟนระดับมิดเรนจ์อย่าง Nord 2 5G ที่นอกจากจะมาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI ที่ถูกเคลมว่าเร็วและแรงกว่าชิป Dimensity 1200 แล้ว ยังมาพร้อมกับชิปกราฟิกที่ความเร็วสูงเพื่อรองรับการเล่นเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นแล้วผลลัพธ์ทางด้านการเล่นเกมนั้นอยู่ในระดับที่ดีเลยค่ะ

การประมวลผลทำงานในขณะที่เล่นเกมก็มีความไหลลื่น สามารถคุมเฟรมเรทได้นิ่งมากเลยทีเดียว ภาพสวย ทัชลื่นติดมื่อ สามารถปรับโหมดเป็น HD ระดับสูงมากได้เลย และสามารถเปิดโหมด High Frame Rate ได้ ซึ่งก็ไม่พบว่าเครื่องมีความหน่วงและกระตุกเลย แถมยังมีความลื่นไหลอีกด้วย

หลังจากที่ได้ทดสอบการเล่นเกมบน OnePlus Nord 2 5G เป็นระยะเวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมง (เล่นโดยไม่ใส่เคสและเล่นอยู่ในอุณหภูมิห้อง 25 องศา) ตัวเครื่องก็ไม่มีความร้อนแต่อย่างใด สามารถเล่นได้เรื่อยๆ แต่เรื่องแบตเตอรี่อาจจะลดลงไปบ้าง ก็อย่างว่าแหละ เล่นเกมต่อเนื่องหลายชั่วโมงจะไม่ลดเลย ก็คงจะแปลกอยู่นะ!!! อีกทั้งเมื่อปรับตั้งค่ากราฟิกให้ได้คุณภาพสูง ก็ไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดแต่อย่างใด สามารถสัมผัสความเร็ว แรง และลื่นไหลได้เป็นอย่างดีในขณะที่แข่งขันในเกม รวมถึงยังสามารถปรับตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ HD และเฟรมเรทระดับสูง ก็ยังสามารถเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องและมีความลื่นไหลอยู่ โดยไม่พบการกระตุกในเกมให้เราต้องเสียอารมณ์เลย อีกทั้งยังมีโหมด Pro Gaming ที่สามารถเข้าไปตั้งค่าบล็อกการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อให้การเล่นเกมนั้นถูกรบกวนน้อยที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีแบตเตอรี่เซลล์คู่ขนาด 4,500mAh ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และรองรับชาร์จเร็วแบบ Warp Charge 65 วัตต์ ที่สามารถชาร์จจาก 0-100% ภายในระยะเวลาเพียง 35 นาที เพราะฉะนั้นแล้วสายเล่นเกมก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายๆ เลยแหละ และยังมีระบบปรับเพื่อลดเวลาที่ใช้แบตเตอรี่ 100% เพื่อรักษาคุณภาพแบตเตอรี่ที่ดีในขณะที่ชาร์จข้ามคืนอีกด้วย

กล้องหลัง มาพร้อมกับ A.I. Camera สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด เก็บรายละเอียดได้ครบและสวยงาม

ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนระดับมิดเรนจ์ แต่การถ่ายภาพของ OnePlus Nord 2 5G ก็ไม่แพ้ใคร ที่จัดเต็มมาให้ถึง 3 เลนส์ด้วยกัน มาพร้อมกับ A.I. Camera ที่สามารถถ่ายภาพได้อย่างชัดเจน เก็บภาพมุมกว้างได้มากกว่าและถ่ายภาพได้ครบทุกระยะมากกว่า ซึ่งรุ่นนี้ ได้มอบประสบการณ์ในการถ่ายภาพที่โดดเด่นและหลากหลาย

กล้องหลังมีทั้งหมด 3 เลนส์ โดยกล้องหลัก มาพร้อมกับเซนเซอร์ IMX766 ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.88 รองรับกันสั่น OIS โดยเซนเซอร์ IMX 766 นั้น สามารถจับแสงได้มากกว่า IMX586 ที่มีอยู่ใน OnePlus Nord รุ่นแรกถึง 56%  + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119.7 องศา และรองรับกันสั่น EIS + เลนส์ mono ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 อีกทั้ง ยังรองรับ โหมด Nightscape Ultra, Super Macro, UltraShot HDR, Portrait, Panorama, Pro Mode และ Smart scene recognition

ส่วนการบันทึกวิดีโอให้ความละเอียด 4K ที่ 30fps และ 1080p ที่ 30/60fps รวมทั้งยังรองรับการถ่ายด้วยโหมด AI Photo Enhancement ที่สามารถจดจำสถานการณ์การถ่ายภาพที่แตกต่างกันได้ถึง 22 สถานการณ์, A.I. Video Enhancement ที่ช่วยปรับปรุงความสว่าง, สีและคอนทราสต์ของการบันทึกวิดีโอได้แบบเรียลไทม์, โหมด Nightscape Ultra ที่ประมวลผลภาพกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและ Dual View Video สำหรับบันทึกวิดีโอกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน

ทดสอบถ่ายภาพด้วยเลนส์ Ultra-wide สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119.7 องศา เก็บภาพได้ครบทุกรายละเอียดและคมชัด

เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119.7 องศา และรองรับกันสั่น EIS ที่สามารถเก็บภาพและบรรยากาศได้อย่างครบถ้วน แถมภาพที่ถ่ายออกมานั้นก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย เก็บได้ครบทุกองค์ประกอบของภาพ มีความคมชัดและสวยงามอีกต่างหาก ซึ่งตอนที่เราทดสอบนั้น เลนส์ Ultra-wide ก็ไม่ทำให้ภาพบิดเบี้ยว สามารถถ่ายภาพได้กว้างสะใจซะเหลือเกิน สำหรับใครที่รักในการถ่ายภาพวิว ถ่ายในมุมกว้างๆ แล้วล่ะก็…คงต้องจัด OnePlus Nord 2 5G ซะแล้วล่ะ อีกทั้งยังสามารถเก็บภาพได้อย่างครบถ้วนโดยไม่ตกหล่นเลย

ทดสอบโหมด Portrait ที่ให้ความเบลอฉากหลังได้อย่างสะใจ

เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ชอบใช้งานมาก นั่นก็คือ โหมด Portrait สำหรับผู้ที่รักในการถ่ายภาพแบบ Portrait ละลายได้เป็นธรรมชาติ ภาพคนเด่นชัด ภาพสิ่งของเด่นชัด ซึ่งเทคนิดการถ่ายภาพโหมด Portrait บน OnePlus Nord 2 5G นั้น ว่ากันตามตรงคือแบบว่า แทบจะไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรให้มันยุ่งยากหรือวุ่นวายเลย เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวซอฟต์แวร์ของกล้องสมาร์ตโฟนนั้นจะช่วยเราคำนวณความเหมาะสมให้แทบจะทุกอย่างและยิ่งมีซอฟต์แวร์ที่ฉลาดแล้วล็…ก็ยิ่งทำให้เราสามารถถ่ายภาพได้ง่ายและสวยงามมากขึ้นเหมือน OnePlus Nord 2 5G ที่เราได้ทดสอบออกมานั่นเอง โหมด Portrait สามารถถ่ายทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้เลย ใครที่ชอบเล่นแนวนี้ น่าจะสนุกไปกับโหมด Portrait อย่างแน่นอน

ทดสอบถ่ายภาพกลางคืนด้วยโหมด Nightscape Ultra ที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม แม้ว่าพื้นที่ที่นั้นจะมีแสงน้อยก็ตาม

เป็นอีกหนึ่งโหมดที่สำคัญบนสมาร์ตโฟนที่ต้องมีนั่นก็คือโหมด Nightscape Ultra ที่สามารถเปิดโหมดและถ่ายภาพในกลางคืนได้อย่างสวยงาม ซึ่งเจ้าเครื่อง OnePlus Nord 2 5G ก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงาม สีสันสวยงามและสามารถเก็บภาพออกมาได้ละเอียดมาก เห็นไหมละ ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนระดับมิดเรนจ์ แต่ความสามารถด้านการถ่ายภาพไม่แตกต่างจากสมาร์ตโฟนเรือธงเลยนะ จะบอกให้!!!

และการถ่ายภาพในช่วงตอนกลางคืนนั้นอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการประมวผลของภาพนานขึ้นเล็กน้อย เพียงถือสมาร์ตโฟนไว้ในมือนิ่งๆ เพื่อที่ไม่ให้ภาพที่ถ่ายออกมานั้นมีความเบลอและเมื่อประมวลผลเสร็จแล้ว รูปภาพที่ได้ออกมานั้นก็มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างปิดและเปิดโหมดถ่ายภาพกลางคืน ถือว่าการถ่ายภาพด้วยโหมด Nightscape Ultra บน OnePlus Nord 2 5G ทำได้โหดมากและได้คะแนนเต็มแบบไม่หักเลย

กล้องหน้า ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มาพร้อมเซนเซอร์ IMX615 และมาพร้อมกับ A.I. Beauty ปรับแต่งใบหน้าให้สวยงาม

สำหรับกล้องเซลฟี่เหมาะสำหรับเหล่าสาวๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะไปไหน อยู่ในรถ อยู่บ้านหรืออยู่ที่ทำงานก็แล้วแต่ มักจะแชะภาพอยู่ตลอดเวลา และเตรียมพร้อมที่จะนำรูปที่ถ่ายมานั้นลงบนโซเซียลในทันที แต่ก่อนที่จะลงโซเชียลก็ต้องผ่านการแต่งภาพอยู่หลายแอปฯ เชื่อว่าหลายคนเป็นอย่างนั้น คือแบบไม่พอใจกับภาพเซลฟี่ที่ถ่ายออกมาจากกล้องสมาร์ตโฟน

กล้องหน้าของ OnePlus Nord 2 5G มาพร้อมกับเซนเซอร์ IMX615 ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ซึ่งความละเอียดนั้นสูงที่สุดของแบรนด์ OnePlus เลย และมาพร้อมกับฟีเจอร์ Group Shots 2.0 ที่สามารถจับตรวจใบหน้าได้สูงสุดถึง 5 ใบหน้าในแต่ละครั้งและช่วยปรับลักษณะต่างๆ ตั้งแต่โทนสีผิวไปจนถึงรายละเอียดของใบหน้าเพื่อให้ได้ภาพที่สวยมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังมีโหมด A.I. Beauty ซึ่งเป็นโหมดที่เลิฟมากที่สุด เพราะจะช่วยในการประมวผลให้ภาพและวัตถุต่างๆ นั้นสวยงาม มีสีสันสดใสมากกว่าที่เคย แถมใบหน้านั้นก็ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถปรับของเราเองได้ตามที่ต้องการ จากเดิมที่ต้องผ่านแอปฯ แต่งรูปมาหลายแอปฯ แต่ครั้งนี้ลั่นเพียงแชะเดียวโดยไม่ต้องพึ่งแอปฯ อีกต่อไป และสามารถลงโซเชียลได้เลยจ๊ะ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะ ยังสามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัด-หลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติและสามารถจับทุกรายละเอียดบนใบหน้าอีกด้วย

แบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh รองรับ Warp Charge 65 วัตต์ ชาร์จไวกว่าเดิมถึง 2 เท่า และมาพร้อมกับ Power Saving Mode

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500mAh แบบ dual-cell ที่สามารถใช้งานทั่วไปได้เต็มวันแบบสบายๆ และมาพร้อมด้วยเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Warp Charge 65 วัตต์ ที่สามารถชาร์จจาก 0-100% ภายในระยะเวลาเพียง 35 นาที ซึ่งทาง OnePlus ได้เคลมว่า สามารถชาร์จให้ได้แบตเพียงพอใช้ระหว่างวัน ภายในระยะเวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น และยังมีระบบปรับเพื่อลดเวลาที่ใช้แบตเตอรี่ 100% เพื่อรักษาคุณภาพแบตเตอรี่ที่ดีในขณะที่ชาร์จข้ามคืนอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานอย่าง Power Saving mode ที่ช่วยในการจัดการพลังงานให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ OnePlus Nord 2 5G ด้วยแอปฯ GeekBench 5

OnePlus Nord 2 5G ได้ทดสอบประสิทธิภาพโดย GeekBench 5 สำหรับคะแนนด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single core) ที่ 809 คะแนน ในขณะที่คะแนนด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi core) นั้นได้ 2,592 คะแนน ซึ่งเมื่อดูจากคะแนนแล้วก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ โดยการสัมผัสของหน้าจอ, การเล่นเกมและการใช้งานก็ถือว่ามีการสัมผัสที่ตอบสนองไวมากเลยทีเดียวเชียวแหละ

การใช้งาน GPS ระบบนำทาง จับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของการใช้งานระบบนำทางหรือ GPS นั้น หลังจากจากที่ได้ทดลองใช้ระบบนำทางแล้ว OnePlus Nord 2 5G สามารถทำผลงานออกมาได้เป็นอย่างดีและมีความแม่นยำอยู่พอสมควร โดยระบบ GPS นั้นสามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้เป็นอย่างดี โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นได้เลยว่าสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 54 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 3 เมตร แต่อย่างไรก็ตาม คุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS นั้นก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ที่กำลังใช้งานอยู่ด้วยหรือสภาพอากาศนั่นเอง

บทสรุปส่งท้าย จะคุ้มหรือไม่คุ้มนะ ถ้าควักเงินจ่ายในราคา 17,990 บาท (เฉพาะตัวเครื่อง สีฟ้า Blue Haze รุ่น RAM 8+ ROM 128GB)

คำว่าคุ้มหรือไม่คุ้มขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล ซึ่งแต่ละคนก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันไป บางคนก็เน้นในเรื่องกล้อง บางคนก็เน้นในเรื่องใช้งาน บางคนก็เน้นเรื่องเกม หรือบางคนก็ซื้อมาเพื่อเป็นเครื่องรองก็ยังมี ความคุ้มค่าของ OnePlus Nord 2 5G ถ้าหากซื้อไปแล้ว ความคุ้มค่าที่จะได้ไปพร้อมกับตัวเครื่องเลยนั่นก็คือ เทคโนโลยีที่ทาง OnePlus ได้มอบให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200-AI ที่ได้รับการปรับแต่งพิเศษ ใช้งานเฉพาะ OnePlus Nord 2 5G ที่ทำให้สมาร์ตโฟนนั้นมีความเร็วแรงมากขึ้นกว่าที่เคย ให้ประสิทธิภาพทั้ง CPU และ GPU เร็วขึ้นกว่าเดิม 65% และ 125% ตามลำดับ

กล้องหลัง 3 ตัว ที่มาพร้อมกับ A.I. Camera ที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างชัดเจน เก็บภาพมุมกว้างได้มากกว่าและถ่ายภาพได้ครบทุกระยะมากกว่า ซึ่งรุ่นนี้ ได้มอบประสบการณ์ในการถ่ายภาพที่โดดเด่นและหลากหลาย อีกทั้งรองรับโหมดต่างๆ มากมายให้เราสามารถเลือกใช้งานตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น โหมด Nightscape Ultra, Super Macro, UltraShot HDR, Portrait, Panorama, Pro Mode และ Smart scene recognition

และมาพร้อมกับประสิทธิภาพด้าน AI ที่ช่วยเร่งการประมวลผลได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น A.I. Photo Enhancement ที่สามารถจดจำสถานการณ์การถ่ายภาพที่แตกต่างกันได้ถึง 22 สถานการณ์, A.I.Video Enhancement ที่ช่วยปรับปรุงความสว่าง, สีและคอนทราสต์ของการบันทึกวิดีโอได้แบบเรียลไทม์, โหมด Nightscape Ultra ที่ประมวลผลภาพกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและ Dual View Video สำหรับบันทึกวิดีโอกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน

หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ AMOLED 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 90 Hz มาพร้อมด้วยคุณสมบัติใหม่ อย่าง A.I. Color Boost และ A.I. Resolution Boost ซึ่งปรับปรุงสีและยกระดับความละเอียดจากแอปฯ ยอดนิยมต่าง ๆ มอบประสบการณ์ภาพที่สดใสและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น รวมถึงแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและรองรับชาร์จเร็ว 65 วัตต์

นอกจากนี้ ตัวเครื่องก็มีขนาดที่กะทัดรัด ถือไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย ใส่กระเป๋ากางเกงก็ไม่ตุงหรือหน่วงกระเป๋าด้วยน้ำหนัก 182 กรัม และขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 159.12 x 73.31 x 8.25 มิลลิเมตร อีกทั้ง ฝาหลังก็ใช้วัสดุพรีเมียม ที่ป้องกันไม่ให้เกิดรอยนิ้วมือและครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่ให้ความแข็งแรงและอึดมาก เห็นแบบนี้ สิ่งที่ได้ไปล้วนเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานทั้งนั้น ซึ่งทาง OnePlus เองก็ได้ใส่ใจทุกรายละเอียดในการผลิตทุกขั้นตอนให้สมาร์ตโฟน OnePlus Nord 2 5G ออกมาดีที่สุดให้สมกับความคุ้มค่าที่ผู้บริโภคต้องจ่ายไป

และใครที่ถามว่า OnePlus Nord 2 5G นั้นเหมาะกับใคร แล้วใครที่น่าซื้อมากที่สุด?? สำหรับเรื่องนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่า จะให้ไปตัดสินใจแทนใครก็คงจะยาก แต่ OnePlus Nord 2 5G นั้นเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน ที่ต้องการสมาร์ตโฟนการใช้งานเพื่อตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน, ผู้ที่ชื่นชอบในการเล่นเกมเป็นพิเศษ, ผู้ที่ชื่นชอบหรือรักในการถ่ายรูป หรือแม้กระทั้งเด็กนักเรียนหรือนักศึกษาที่ต้องการหาสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกับสเปคแบบจัดเต็มเทียบเท่าสมาร์ตโฟนเรือธง แต่ขายในราคาที่ย่อมเยากว่า ทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถใช้ OnePlus Nord 2 5G ได้หมดเลย ซึ่งการใช้งานนั้นก็ไม่ยุ่งยาก ใช้งานง่าย แถมยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี A.I. ที่ทาง OnePlus ได้จัดเต็มมาให้อีกด้วย  

ยังไม่หมดเท่านี้นะ ทาง OnePlus ยังรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android นานถึง 2 ปี และได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยต่อเนื่องนานอีก 3 ปี แน่นอนว่า แฟนๆ OnePlus จะไม่โดนลอยแพนะจ๊ะ!!! นอกจากนี้  ยังมี After Service บริการหลังการขาย โดยผู้ใช้งานสามารถเข้ามาใช้รับบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็น ซ่อมแซม, เปลี่ยนอะไหล่ หรือตรวจเช็คสภาพเครื่อง โดยผ่าน OnePlus Service Center ที่ MBK Center ชั้น 5 และศูนย์บริการ OPPO Service Center ทั่วประเทศได้เลย

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่สนใจ OnePlus Nord 2 5G ตัวเครื่องสีฟ้า (รุ่น 8GB + 128GB) สามารถสั่งซื้อผ่านบนช่องทางออนไลน์ในเร็วๆ นี้ ด้วยราคา 17,990 บาท ส่วนรุ่น 12GB + 256GB ตัวเครื่องสีเทา Gray Sierra จะมีราคาขายอยู่ที่ 18,990 บาท สามารถซื้อได้ตั้งแต่ในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งทั้ง 2 สี จะวางขายบนช่องทางออนไลน์เท่านั้น ได้แก่ Lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop

สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ก่อน ครั้งหน้าเราจะนำรุ่นไหน แบรนด์ไหนมารีวิวกันอีกต้องห้ามพลาดเด็ดขาดกับพวกเราทีม StepGeek.TV นะคะ สวัสดีค่ะ!!!

นำเสนอข่าวโดย : StepGeek
ที่มา : OnePlus