สวัสดีครับ หากยังจำกันได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านทาง OnePlus ประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปใหม่ล่าสุดอย่าง OnePlus 8 Series ซึ่งเป็นรุ่นต่อยอดสุดฮิตอย่าง OnePlus 7T Series นั่นเอง ในครั้งนี้ OnePlus 8 Series ได้รับการอัปเกรดในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต, กล้องถ่ายภาพ หรือแบตเตอรี่ ล้วนให้ดีขึ้นทั้งสิ้น โดยวันนี้ทางทีมงาน StepGeek.TV จะนำเสนอบทความรีวิว OnePlus 8 เป็นรุ่นแรก เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความโดดเด่นอย่างไร และตอบโจทย์การใช้งานได้ดีขึ้นขนาดไหน หากทุกท่านพร้อมกันแล้ว ขอเชิญรับชมกันได้เลย
สเปกเครื่องแบบคร่าวๆ ของ OnePlus 8
– ขนาดตัวเครื่อง 160.2×72.9×8.0 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 180 กรัม
– รองรับการป้องกันน้ำกันฝุ่มตามมาตรฐาน IP53
– หน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED Punch Hole Display HDR10+ 90Hz ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล ในอัตราส่วน 20:9 ขนาด 6.55 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจกแบบ Gorilla Glass
– ชิปเซ็ต Snapdragon 865
– ชิปกราฟิก Adreno 650
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 12GB
– หน่วยความจำภายใน (ROM) ความจุ 256GB (UFS 3.0)
– ระบบปฏิบัติการ Oxygen OS (Android 10)
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ IMX471 ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.45 พร้อมรองรับระบบกันสั่นไหวแบบ EIS
– กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 เลนส์ (Triple-Camera) โดยกล้องตัวแรกความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ IMX586 ที่มีรูรับแสงกว้าง F/1.75, กล้องตัวที่สองแบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.4 และกล้องตัวที่สามแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.2 ที่มีมุมมองกว้าง 116 องศา นอกจากนี้ ยังรองรับระบบป้องกันการสั่นไหวทั้งแบบ OIS กับ EIS พร้อมซูมได้ 2x-10x, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF+CAF พร้อมไฟแฟลช LED
– เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ กับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
– ลำโพงเสียงคู่ พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos
– รองรับเสาสัญญาณ GPS แบบ Dual Band
– แบตเตอรี่ขนาด 4300 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงแบบ Warp Charge 30T (5V/6A)
ดีไซน์ตัวเครื่องของ OnePlus 8
OnePlus 8 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED Punch Hole Display HDR10+ 90Hz ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล ในอัตราส่วน 20:9 ขนาด 6.55 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจกแบบ Gorilla Glass
ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ IMX471 ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.45 พร้อมรองรับระบบกันสั่นไหวแบบ EIS นอกจากนี้ ยังมีลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา พร้อมทำหน้าที่เป็นลำโพงเสียงภายนอก และเซ็นเซอร์ต่างๆ
ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen
ด้านบนของเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง
ด้านซ้ายของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง
ด้านขวาของเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเปิด-ปิด เสียง
ด้านล่างของเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ด, ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงภายนอก
ตัวเครื่องของ OnePlus 8 เป็นดีไซน์แบบเงางาม ซึ่งทำให้ตัวเครื่องมี่ความสวยงามเป็นพิเศษ
และด้านหลังยังมาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 เลนส์ (Triple-Camera) โดยกล้องตัวแรกความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ IMX586 ที่มีรูรับแสงกว้าง F/1.75, กล้องตัวที่สองแบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.4 และกล้องตัวที่สามแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.2 ที่มีมุมมองกว้าง 116 องศา นอกจากนี้ ยังรองรับระบบป้องกันการสั่นไหวทั้งแบบ OIS กับ EIS พร้อมซูมได้ 2x-10x, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF+CAF พร้อมไฟแฟลช LED
และมีโหมดถ่ายภาพให้ใช้งานหลากหลาย
การออกแบบเป็นยังไงกันนะ!
การออกแบบดีไซน์ของ OnePlus 8 มีดีไซน์เปลี่ยนจากรุ่นก่อนหน้านี้พอสมควร โดยตัวเครื่องของ OnePlus 8 เลือกใช้เทคโนโลยีแบบ Metal-Glass ซึ่งด้านหน้า-ด้านหลัง จะเป็นกระจก ผสานกับกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะ จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเงางามหรูหราเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ตัวกระจกด้านหลังจะยังมีความโค้งรับกับอุ้งมือ เผื่อช่วยให้จับ หรือถือได้ง่าย แต่อย่างไรก็ดี ด้วยความที่เป็นกระจก จึงเกิดคราบเปื้อนได้ง่ายเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่นั้นด้านหลังของตัวเครื่องยังมีการเล่นกับแสงเมื่อมาตกกระทบได้ ทำให้สีสันไล่เฉดดูเงางามเป็นอย่างมาก ด้านขนาดของตัวเครื่องก็นับว่าเหมาะมือไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปสามารถถือใช้งานด้วยมือเดียวได้ แต่ก็แนะนำให้ใส่เคสเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนเป็นดีที่สุด นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังรองรับมาตรฐานการกันน้ำกันผุ่น IP53 ซึ่งสามารถน้ำกระเซ็นมาโดนได้เท่านั้น จะแตกต่างกันตัวพี่ใหญ่อย่าง OnePlus 8 Pro ที่รองรับมาตรฐานการกันน้ำกันผุ่น IP68
จุดขายสำคัญของ OnePlus 8
มาพูดถึงจุดขายของ OnePlus 8 กันบ้าง ซึ่งก็มีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มจากหน้าจอแสดงผลแบบ Fluid AMOLED Punch Hole Display HDR10+ ที่มีค่ารีเฟรชเรทสูงถึง 90Hz กับความละเอียด 2400×1080 พิกเซล บนขนาด 6.55 นิ้ว ช่วยให้รับชมคอนเทนท์ได้เต็มตา แถมยังมีการทัขสกรีนที่ลื่นไหลทันใจ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับสเปกเครื่องระดับท็อปที่เป็นระดับเดียวกับเรือธงคู่แข่ง แต่ OnePlus 8 นั้นวางจำหน่ายในราคาย่อมเยากว่าพอสมควร ไมเพียงแค่นั้น ด้านกล้องถ่ายภาพก็มีความละเอียดสูง รองรับการถ่ายภาพได้หลากหลายทั้งด้านหน้าด้านหลัง ในส่วนของดีไซน์ ก็ต้องยอมรับว่ามีการปรับปรุงให้สวยขึ้นกว่าเดิม ดูหรูหราพรีเมียมมากขึ้น และสุดท้ายคือให้แบตเตอรี่มาขนาดใหญ่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน พร้อมรองรับการชาร์จเร็วแบบ Warp Charge 30T (5V/6A) จะไม่ทำให้คุณพลาดทุกการติดต่ออย่างแน่นอน
ชิปเซ็ตเป็นอย่างไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?
อย่างที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า OnePlus 8 นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับท็อป ซึ่งใช้เป็นรุ่นล่าสุดจากค่าย Snapdragon อย่างรุ่น Snapdragon 865 ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่สุดในปัจจุบัน สามารถใช้งานประมวลผลสูงได้ทุกรูปแบบ ทั้งในเรื่องของการเล่นเกมอย่าง ROV หรือ PUBG Mobile รวมถึงการตัดต่อวิดีโอ ก็สามารถทำได้หายห่วง และก็ไม่ต้องกังวลว่าขณะใช้งานต่อเนื่องนานจะทำให้ OnePlus 8 ก็จัดการระบายความร้อนสะสมได้ดี เรียกได้ว่า ใช้งานได้ลื่นๆ ไม่ต้องกังวลว่าประสิทธิภาพจะดรอปลงจากการเกิดความร้อนสะสมที่ตัวเครื่องอย่างแน่นอน
โดยจากการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 5 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 922 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 3338 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core จากการทดสอบจะเห็นได้ว่า OnePlus 8 นั้นได้คะแนนที่สูง จึงทำให้ OnePlus 8 เป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อปมีราคาที่จับต้องได้ง่ายเป็นอย่างมาก
ซึ่งการใช้งานต่างๆ ก็ตอบโจทย์ได้ดีอย่างที่คาดเอาไว้เนื่องด้วย OnePlus 8 มีสเปกเครื่องที่เคยเป็นอันดับท็อปมาก่อน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งานต่างๆ เพราะจากการทดสอบก็คงจะเห็นได้ว่าชิปเซ็ต Snapdragon 865 ก็สามารถทำคะแนนออกมาได้ดี และแอปพลิเคชันในปัจจุบันก็มีน้อยมากๆ ที่จะกินทรัพยากรเครื่องหนักๆ นอกเสียจากการเล่นเกมพร้อมกับปรับกราฟิกสูงสุด เป็นต้น
ทางด้านชิปกราฟิกอย่าง Adreno 650 เท่าที่ได้ทดสอบด้วยการเล่นเกมอย่าง PUBG Mobile หรือ Asphalt 9 ก็ต้องอธิบายตามตรงว่าชิปกราฟิกตัวนี้ยังสามารถเล่นเกมได้ดี โดยไม่มีอาการหน่วงให้รำคาญใจ แม้ว่าจะปรับค่ากราฟิกของเกมให้แสดงผลสูงสุด OnePlus 8 ก็ยังสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ บนตัวเกมได้ครบ และเนียนตาเป็นอย่างมาก ทำให้ OnePlus 8 ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการเล่นเกมได้ดี
มี RAM 12GB+ROM 128GB
OnePlus 8 นับเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่มาพร้อมกับหน่วยความจำแรมที่สูงสุดคือ มีหน่วยความจำแรมมากถึง 12GB อีกทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ที่ให้หน่วยความจำแรมมามากถึงขนาดนี้ เรื่องการใช้งานคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย ด้วยหน่วยความจำแรมมากถึง 12GB สามารถใช้งานต่างๆ ได้ดีเหลือเฟือแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานแอปพลิเคชันพร้อมๆ กันหลายแอปพลิเคชัน หรือการเปิดเบราว์เซอร์หลายๆ หน้าต่าง ก็ใช้งานได้รวดเร็ว
ไม่เพียงแค่นั้น OnePlus 8 ยังมีหน่วยความจำภายในขนาด 256GB ซึ่งเป็นเวอร์ชัน UFS 3.0 ที่มีความสามารถในการอ่าน หรือเขียนได้รวดเร็วทันใจ เรียกได้ว่า การบันทึกภาพ หรือการอ่านไฟล์ต่างๆ รวดเร็วทันใจอย่างแน่นอน และด้วยความที่มีหน่วยความจำมากถึง 256GB แถมยังเป็นเวอร์ชัน 3.0 จึงทำให้ OnePlus 8 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีหน่วยความจำสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถ ใส่ซีรี่ย์ 3-4 เรื่อง เอาไว้ดูเพลินๆ ได้สบายๆ รวมถึงสามารถเก็บบันทึกข้อมูลได้จำนวนเยอะ และเพียงพอต่อการใช้งานในระยะยาวแบบไม่ต้องกังวลเรื่องหน่วยความจำเต็มจนทำให้เครื่องประมวลผลช้าลงแต่อย่างใด และไม่จำเป็นต้องพึ่งหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD อีกด้วย ซึ่งหากใช้งานหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ที่เป็นรุ่นที่การอ่าน หรือเขียนความเร็วต่ำ ก็จะทำให้การอ่านข้อมูลช้ากว่าเดิม อาจทำให้รู้สึกรำคาญใจได้
หน้าจอ Fluid AMOLED 90 Hz ดีไหม?
สำหรับ OnePlus 8 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Fluid AMOLED Punch Hole Display HDR10+ 90Hz ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล ในอัตราส่วน 20:9 ขนาด 6.55 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจกแบบ Gorilla Glass ด้วยเทคโนโลยีที่กล่าวมาทำให้หน้าจอแสดงผลของ OnePlus 8 มีการแสดงผลสีสันคมชัด และเที่ยงตรง
ทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินโดยเฉพาะการชมภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ ด้วยความที่มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ทาง OnePlus ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปกป้องหน้าจอ จึงได้ครอบทับหน้าจอด้วยกระจกแบบ Corning Gorilla Glass เพื่อป้องกันแรงกระแทก หรือสิ่งของมากระทบจนเกิดรอยขีดข่วน ไม่เพียงแค่นั้น ตัวหน้าจอแสดงผลยังรองรับเทคโนโลยี HDR10+ ซึ่งช่วยให้แสดงผลสีสันต่างๆ นั้นสมจริงดั่งตาเห็นเลยก็ว่าได้
และพิเศษไปกว่านั้น OnePlus 8 ยังรองรับการแสดงผล Refresh Rate ที่ 90Hz ซึ่งทาง OnePlus ได้เคยใส่ในรุ่น 7T Pro มาก่อนหน้านี้ และยกมาใส่ใน OnePlus 8 ด้วยเช่นกัน โดยเทคโนโลยีนี้มีการแสดงผลภาพได้ 90 ภาพภาย 1 วินาที และจากการทดสอบด้วยการเล่นเกม ก็พบว่าหน้าจอแสดงผลก็ OnePlus 8 สามารถแสดงผลได้เนียนตาเป็นอย่างมาก สามารถเล่นได้ต่อเนื่องอย่างเพลิดเพลิน บอกได้เลยว่า สาวกเล่นเกมจะต้องชื่นชอบหน้าจอแสดงผลของ OnePlus 8 อย่างแน่นอน โดยสมาร์ทโฟนในปัจจุบันที่มีราคาใกล้เคียงกัน ยังไม่สามารถทำได้อย่าง OnePlus 8 อีกด้วย และหากเทียบกับราคาค่าตัว ก็บอกได้เลยว่า คุ้มค่าเป็นอย่างมาก
และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ OnePlus 8 ยังรองรับฟังก์ชันการลดแสงสีฟ้า สำหรับใช้งานในสภาวะแสงน้อยได้ ทำให้สามารถใช้นอนอ่าน E-Book หรือรับชมซีรี่ส์ ก่อนนอนได้อย่างสบายๆ
กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 เลนส์จะถ่ายภาพได้ดีขนาดไหน?
สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหลังของ OnePlus 8 จะเป็นแบบ 3 เลนส์ (Triple-Camera) โดยกล้องตัวแรกความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ IMX586 ที่มีรูรับแสงกว้าง F/1.75, กล้องตัวที่สองแบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.4 และกล้องตัวที่สามแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F/2.2 ที่มีมุมมองกว้าง 116 องศา นอกจากนี้ ยังรองรับระบบป้องกันการสั่นไหวทั้งแบบ OIS กับ EIS พร้อมซูมได้ 2x-10x, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF+CAF พร้อมไฟแฟลช LED
ซึ่งจากข้อมูลเลนส์กล้องจะเห็นได้ว่ามีคล้ายคลึงกับกล้องดิจิทัลด้านหลังบน OnePlus 7T Pro แต่มีการถอดเลนส์ Telephoto ออกไป แล้วใส่แทนด้วยเลนส์ Macro แทน นั่นเอง และถึงแม้จะเป็นกล้อง 3 เลนส์แบบเดิม แต่ก็มีการอัปเกรดในเรื่องของระบบโฟกัสภาพที่ดีขึ้น, AI ชาญฉลาดมากขึ้น และมีการใส่ระบบกับสั่นไหว 2 แบบ คือ OIS+EIS อีกทั้งการปรับค่ากล้องก็ง่าย สะดวก หรือเพียงแค่เปลี่ยนโหมดก็ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ในการถ่ายภาพโหมดกปกติ สีสันของอาหาร หรือวิวทิวทัศน์ต่างๆ ก็ตรงดั่งที่ตาเห็น ไม่มีผิดเพี้ยนอีกด้วย ด้านInterface กล้องดิจิทัลด้านหลังมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย โดยสามารถเลือกปรับเลือกเลนส์เพื่อถ่ายภาพได้ตามใจชอบ
ทางด้านการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ OnePlus 8 ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน จากภาพจะเห็นได้ว่าตัวแบบมีรายละเอียดที่ชัดเจน รายละเอียดเส้นขนคมชัด ตัดขอบกับฉากหลังได้อย่างเนียน ส่วนฉากหลังก็เบลอได้ดีอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผู้ใช้ภาพถ่ายได้หลากหลายมากขึ้นได้
อีกหนึ่งจุดเด่นของ OnePlus 8 คือ การถ่ายภาพ Ultra-Wide โดยจากการทดสอบพบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพมุมกว้างออกมามีรายละเอียดของภาพที่คมชัด เรียกได้ว่า ทาง OnePlus ทำซอฟต์แวร์ในจุดนี้ออกมาดีไม่น้อย จึงทำให้ภาพมุมกว้างถึงมีความคมชัดได้ระดับนี้ เนื่องด้วยสมาร์ทโฟนบางรุ่นยังถ่ายภาพมุมกว้างออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติอย่าง OnePlus 8 เลยก็ว่าได้
ด้วยความที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ พร้อมทั้งรูรับแสงที่กว้าง จึงมีความโดดในเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี โดยจากการทดสอบก็พบว่า OnePlus 8 สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยผ่านโหมดถ่ายภาพกลางคืนออกมาได้อย่างคมชัด สีสันแสงต่างๆ ก็ดูสดใส พร้องทั้งเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างคมชัด และไม่มีนอยส์ให้พบเจอ ไม่เพียงแค่นั้น ด้วยความที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.75 บวกกับโหมดถ่ายภาพกลางคืนที่ดีขึ้นกว่าเดิม แม้จะเป็นในที่แสงน้อยได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และสามารถถ่ายภาพได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง เพียงแค่เลือกโหมดถ่ายภาพกลางคืนก็สามารถถ่ายภาพได้ทันที
ถ่ายวิดีโอเป็นยังไงบ้างนะ?
สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหลังของOnePlus 8 นั้นสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ 4K Ultra HD 60fps และจากที่ได้ทดสอบก็พบว่าไฟล์วิดีที่ได้ค่อนข้างมีความคมชัด สีสันสดใส เห็นรายละเอียดครบ เรียกได้ว่า ทะเลสีฟ้าเขียวสดใส ท้องฟ้าก็สีคราม แต่อย่างไรก็ดี AI จะมีการปรับสีสันค่อนข้างเยอะ จึงทำให้รายละเอียดบางอย่างเลือนลางลง เช่น ก้อนเมฆที่จะเห็นไม่ชัดมาก ซึ่งเกิดขึ้นในการถ่ายภาพวิวซะส่วนใหญ่
อละสิ่งที่เห็นถึงการพัฒนาอย่างชัดเจนของ OnePlus 8 คือ สามารถใช้ระบบกันสั่นอย่างฟังก์ชัน Super Stable ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถใช้งานร่วมกับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K Ultra HD 60fps ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ถ่ายวิดีโอได้นิ่งเนียนตาทุกสถานการณ์ ไม่เพียงแค่นั้น OnePlus 8 ยังมีฟังก์ชันใหม่สำหรับถ่ายวิดีโอแบบ 4K Cine ที่เป็นการถ่ายวิดีโอในสัดส่วน 21:9 ที่เป็นสัดส่วนแบบเดียวกับในโรงภาพยนตร์ ซึ่งจะทำให้วิดีโอของคุณดูเป็นมืออาชีพมากกว่าเดิม แถมยังรองรับการใช้งานกับระบบกันสั่นอย่างฟังก์ชัน Super Stable ได้อีกเช่นกัน นับว่าเป็นฟังก์ชันที่พัฒนาเพิ่มขึ้นให้ใช้งานได้หลากหลาย และใช้งานได้ง่ายดายอีกด้วย
และจากการทดสอบถ่ายิดีโอก็พบว่า OnePlus 8 สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ และมีความชัดเจนเป็นอย่างมาก และด้วยความที่มีฟังก์ชัน Super Stable ก็สามารถเดินถ่ายได้อย่างสะดวกสบาย ได้ทุกสถานการณ์ โดยไม่จำเป็นต้องพบพาขาตั้งกล้องอีกต่อไป
กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รุ่นเดิม?
สำหรับ กล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นไม่ได้เป็นแบบ Pop-up เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ยังคงใช้กล้องดิจิทัลรุ่นเดิมที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ IMX471 ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.45 ซึ่งเป็นรุ่นเดิมที่ใช้บน OnePlus 7T Pro เลยก็ว่าได้ โดยเหตุผลที่ทาง OnePlus ไม่ได้อัปเกรดกล้องดิจิทัลด้านหน้า นั่นก็ว่าเพราะกล้องดิจิทัลตัวนี้นั่นยังตอบโจทย์ในการถ่ายภาพเซลฟี่ที่ดีในทุกสภาวะแสง และเคยได้คะแนนจาก DxOMark แบบรวมอยู่ที่ 86 คะแนน เลยทีเดียว จึงการันตีเรื่องการถ่ายภาพได้ดีอย่างแน่นอน และที่พิเศษไปกว่านั้น ยังมีเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับเมื่อเครื่องตก ตัวกล้องจะทำการเก็บเข้าอัตโนมัติทันที
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพด้านหน้าก็มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายอย่าง เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายภาพสติกเกอร์ โดยในโหมดถ่ายภาพหน้าสวยก็ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI อย่างลงตัว ซึ่งเข้ามาช่วยปรับแต่งในเรื่องของผิวเนียน หรือลบรอยด่างดำ เพื่อให้ได้ภาพเซลฟี่ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และอีกหนึ่งจุดเด่นของกล้องดิจิทัลด้านหน้าบน OnePlus 8 คือ รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K Ultra HD 60fps ซึ่งเหมาะกับการนำไปถ่าย VLOG เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่ไม่มีระบบกันสั่น จึงแนะนำให้ใช้ร่วมกับไม้กันสั่น หรือใช้ขาตั้งกล้องช่วย ก็จะทำให้วิดีโอนิ่ง และน่าสนใจมากขึ้นได้

ซึ่งจากการทดสอบก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้เนียนอย่างเป็นธรรมชาติเลยทีเดียว โดยสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างเนียนตา และเป็นธรรมชาติ
GPS แม่นยำแม่นยำใช้ได้เลย!
สำหรับเสาสัญญาณ GPS บน OnePlus 8 ก็นับว่ามีความแม่นยำใช้ได้เลยทีเดียว สามารถจับเสาสัญญาณได้เยอะ และหากเป็นการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Google Maps ก็สามารถนำทางได้อย่างแม่นยำเที่ยงตรง แต่หากเป็นในกรณีเดินทางใต้ทางด่วน หรือใต้สะพาน จุดนำทางอาจจะมีการเคลื่อนผิดเพี้ยนบ้างเล็กน้อย ก็จุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกับสัญญาณโทรศัพท์ด้วยนั่นเอง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าทำงานได้ดีเป็นที่น่าพอใจ
ลำโพงคู่ มีระบบตัดเสียง พร้อม Dolby Atmos
ทางด้านลำโพงเสียงนั้นเป็นแบบสเตอริโอ ซึ่งลำโพงสองตัว คือ ติดตั้งอยู่ที่ด้านบนตรงลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา พร้อมทำหน้าที่เป้นลำโพงเสียงภายนอก กับด้านล่างตัวเครื่อง ที่ให้เสียงดังฟังชัด ไม่เพียงแค่นั้น บน OnePlus 8 ยังพิเศษกว่าตรงที่มีการอัปเกรดใส่ในเรื่องระบบตัดเสียงรบกวนเข้ามาด้วย จึงทำให้ได้รับคุณภาพเสียงได้ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังมีระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งเป็นระบบเสียงที่ใช้ในโรงภาพยนตร์ ทำให้การเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์ ได้ราวกับอยู่ในโรงภาพยนตร์เลยก็ว่าได้
ซึ่งจากการทดสอบด้วยการฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ เสียงที่ได้ก็กระหึ่มเร้าใจ ราวกับชมภาพยนตร์อยู่ในโรงภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ยังให้เสียงที่ดังไม่แหลมจนเกินไป ซึ่งดีกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งเสียงที่ดูแน่นกว่าลำโพงตัวเดียว พร้อมกับคุณภาพ ทางทีมงานคิดว่าดีมาก ไม่ผิดหวังแน่นอน
รองรับ WiFi 5GHz ด้วยนะ!
อีกหนึ่งข้อดีของ OnePlus 8 คือ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFI ที่คลื่นถี่ 5GHz ได้ ซึ่งประโยชน์ของการเชื่อมต่อ WiFi ที่คลื่นความถี่นี้ได้คือ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายได้ที่ระดับ 300GB ขึ้นไปได้นั่นเอง โดยจะทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไร้อาการหน่วงให้รำคาญใจอีกต่อไป แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเร้าเตอร์ของผู้ใช้ด้วยว่าสามารถกระจายสัญญาณ WiFi 5GHz ได้หรือไม่ หากทำได้ก็จะสามารถใช้งานความเร็วของอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แบตอึดขึ้น และมีชาร์จเร็วกว่าเดิม
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ OnePlus 8 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4300 mAh ซึ่งมากกว่า OnePlus 7T Pro อยู่เล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นความจุเพียงพอต่อการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานตลอดทั้งวัน โดยจากการทดสอบด้วยการใช้งานตลอดระยะเวลา 1 วันเต็ม ไม่ว่าจะเป็น เล่นแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก, ดูคลิปบน Youtube, ถ่ายภาพ หรือท่องเว็บไซต์ต่างๆ ก็พบว่าแบตเตอรี่ของ OnePlus 8 อึดใช้ได้เลยทีเดียว อาจเป็นเพราะว่า OnePlus มีสเปกเครื่องระดับท็อปจึงจัดการใช้งานแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี
และเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เนื่องด้วย OnePlus 8 รองรับเทคโนโลยี Warp Charge 30T ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วทันใจ ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ ภายในเวลาอันรวดเร็ว เรียกได้ว่า เสียบชาร์จไว้ แล้วอาบน้ำแต่งตัว แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวๆ ตลอดทั้งวันแน่นอน และอีกหนึ่งความพิเศษของ OnePlus 8 ดีไซน์ตัวเครื่องนั้นถูกคิดค้นมาพิเศษ ช่วยให้ขณะที่เล่นเกม หรือใช้งานต่างๆ ไปพร้อมๆ กับการชาร์จแบตเตอรี่ ตัวเครื่อง OnePlus 8 จะไม่สะสมความร้อน ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องแบบลื่นๆ เลยทีเดียว ** ข้อเสียจากการเกิดความร้อนสะสมที่ตัวเครื่อง จะทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานนั้นลดลง **
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ
มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Oxygen OS 10 ซึ่งมีการปรับปรุง และพัฒนาให้ดีขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้ไหลลื่น และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานมากมาย นอกจากนี้ ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC ได้
สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย
มีบริการจากทาง Google ให้ใช้งานอย่างครบครัน
สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชันได้ รวมถึงสามารถปรับค่าการแสดงผลสีสันบนหน้าจอได้อีกด้วย
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันลดแสงสีฟ้าเพื่อสถนอมสายตา และปรับค่า Refresh Rate ได้
ในส่วนของการเปิดใช้งานเว็บเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตก็สามารถแสดงเนื้อหาต่างๆ ได้ครบถ้วน
สามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ กับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าได้
และสามารถสั่งงานด้วยท่าทางได้
รองรับฟังก์ชัน Fnatic Mode สำหรับเร่งประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์เพื่อช่วยในการเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น ไม่เพียงแค่นั้น ยังสามารถเปิดใช้งานระบบสั่นควบคู่กับการเล่นเกมได้ โดยตัวเครื่องจะสั่นตามจังหว่ะการลั่นกระสุนหากเป็นเกมแนวยิงอย่าง FreeFire หรือ PUBG Mobile
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันสำหรับเร่งการทำงานของหน่วยความจำแรมเพื่อให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ หรือตามลักษณะการใช้งานได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพจากกล้องดิจิทัลด้านหลัง









ตัวอย่างภาพจากกล้องดิจิทัลด้านหน้า



ตารางเปรียบเทียบสเปกของ OnePlus 8 และ OnePlus 8 Pro
จากตารางข้อมูลทั้ง 4 รุ่น จะเห็นได้ว่า OnePlus 8 Pro มีสเปกเครื่องระดับท็อปที่สุด ทั้งหน้าจอใหญ่สุด, ความละเอียดหน้าจอสูงสุด, มีค่า Refresh Rate 120Hz, มีกล้อง 4 เลนส์, มี Laser Focus, หน่วยความจำแรมแบบ LPDDR5 ที่ถือว่าเร็วที่สุดในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่มากที่สุด อีกทั้งยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายแบบ 30W ได้เพียงรุ่นเดียวในกลุ่มนี้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี OnePlus 8 Series นั้นก็ได้ปรับราคาการวางจำหน่ายสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิมพอสมควร แต่หากพิจารณาเทียบกับสเปกเครื่อง หรือสิ่งที่มีอยู่บน OnePlus 8 Series ก็นับว่าสมน้ำสมเนื้อ นอกจากนี้ ก็ต้องยอมรับว่า OnePlus 8 Series มีกระแสค่อนข้างดีเป็นอย่างมาก และได้เริ่มเปิดจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังจัดโปรโมชันร่วมกับทาง AIS ในราคาพิเศษอีกด้วย ซึ่งผู้ที่กำลังสนใจ OnePlus 8 Series หรือ OnePlus 7 Series อยู่ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
รีวิว OnePlus 8 เราชอบมากกว่า 8 Pro อีก สายคล่องตัวน่าจะถูกใจ
สรุปผลการทดสอบของ OnePlus 8
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการรีวิว OnePlus 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อยอดสุดฮิตใหมล่าสุด ซึ่งจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็ต้องบอกเลยว่า OnePlus 8 ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนเรือธงที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผลที่มีความคมชัดระดับ Fluid AMOLED Full HD+ ช่วยให้ภาพที่ได้จากการเล่นเกม หรือภาพยนตร์นั้นสดใสไม่น้อย นอกจากนี้ ยังมีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ทำให้ภาพการเปลี่ยนฉาก หรือการเล่นเลื่อนหน้าเว็บไซต์ เรียกได้ว่าเนียนตาเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีลำโพงคู่ พร้อมกับระบบเสียงที่ดี ช่วยเพิ่มอรรถรสในการใช้งานไปอีกขั้น
ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็นับว่าถ่ายภาพออกมาได้ดีทั้งกล้องดิจิทัลด้านหน้า และด้านหลัง ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย, แสงปกติ หรือจะเป็นการถ่ายภาพมุมมองกว้างก็ตาม ภาพถ่ายที่ได้ก็มีความคมชัด สีสันสมจริง อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งรวมถึงการถ่ายภาพ Portrait ด้วยเช่นกัน ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าภาพถ่ายที่ได้มีการตัดขอบตัวแบบ กับฉากหลังได้อย่างเนียนตา
ด้านสเปกเครื่องก็คงไม่มีอะไรต้องอธิบายมากนัก เนื่องด้วย OnePlus 8 มีสเปกเครื่องในระดับท็อปสุด ณ ปัจจุบัน อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสำหรับรีดเร้นศักยภาพฮาร์ดแวร์ให้ทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพได้ ทำให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่น นอกจากนี้ ยังมีระบบระบายความร้อนมาให้ภายในเครื่อง เรียกได้ว่า สามารถเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ได้ต่อเนื่องได้แบบไม่ตัวกังวลว่าเครื่องจะหน่วงแต่อย่างใด ไม่เพียงแค่นั้น OnePlus 8 ยังมีแบตเตอรี่ที่มากขึ้นเป็น 4300 mAh ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน และหากแบตเตอรี่ใกล้จะหมดก็สามารถชาร์จอบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วทันใจด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็วอีกด้วย
โดย OnePlus 8 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่มีสเปกครบสำหรับตอบโจทย์การใช้งานระดับสูงต่างๆ ได้ทุกด้าน ซึ่ง OnePlus 8 ถือเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อ OnePlus 8 ได้แล้วที่ช้อปของ OnePlus หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศในราคา 28,990 บาท (รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB)
จุดเด่นของ OnePlus 8
– ดีไซน์สวยมีเอกลักษณ์ที่สวยงามน่าถือใช้งาน
– หน้าจอแสดงผลแบบ Fluid AMOLED ใหญ่คมชัดเต็มตา สีสันสดใส พร้อมรองรับ Refresh Rate 90 Hz
– สเปกเครื่องระดับท็อปใช้งานต่างๆ ได้ครบครันไหลลื่น
– รองรับระบบระบายความร้อนภายใน
– ใช้หน่วยความจำ ROM ขนาด 256GB แบบ UFS 3.0
– มีหน่วยความจำแรมมากถึง 12GB
– ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ใหม่ล่าสุด
– กล้องดิจิทัลถ่ายภาพได้ดี คมชัด ทั้งด้านหลัง และด้านหลัง
– รองรับการเชื่อมต่อ WiFi ผ่านคลื่นความถี่ 5G
– ลำโพงคู่สเตอริโอ ด้วยระบบเสียง Dolby Atmos
– มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมรองรับชาร์จได้เร็วกว่าเดิม
จุดที่ต้องพิจารณาของ OnePlus 8
– ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้
– ด้วยความที่เป็นหน้าจอขอบโค้งเวลาถือใช้งานบางครั้งอุ้งมือไปโดนหน้าจอ ทำให้เกิดอาการทัชไม่ติดบ้างบางครั้ง
– ไม่มีช่องหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร
ราคา OnePlus 8 series
- OnePlus 8 (ในรุ่น 12GB+256GB) ราคาอยู่ที่ 28,990 บาท
- OnePlus 8 Pro (ในรุ่น 12GB+256GB) ราคาอยู่ที่ 34,990 บาท
สำหรับเรือธง OnePlus 8 series นั้นสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 22 พฤษภาคม 2020 และขายจริงในวันที่ 23 พฤษภาคม 2020 เป็นต้นไป โดยผ่านช่องทาง AIS, Lazada, JD Central, Shopee และ This Shop ซึ่งสำหรับคนที่สั่งซื้อล่วงหน้า OnePlus 8 Pro ในสี Ultramarine Blue และในรุ่น OnePlus 8 สี Glacial Green จะได้รับชุดกล่อง Pop-up ที่มาพร้อมกับ Sandstone Bumper Case, Karbon Bumper Case, ชุดหูฟัง Bullet Wireless Z (Black) พร้อมรับบัตร VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง นาน 1 ปี ที่มีมูลค่าสูงสุดถึง 16,069 บาท ซึ่งสินค้านี้มีจำนวนจำกัด
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีโปรโมชั่นเด็ดจากผู้ให้บริการ AIS ซึ่งถ้าหากสั่งซื้อล่วงหน้าทั้ง 2 รุ่นนั้น จะได้รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 10,500 บาท (สำหรับลูกค้าที่ย้ายค่ายเบอร์เดิม พร้อมรับส่วนลดเพิ่มอีก 1,000 บาท) แถมยังได้รับสิทธิดู YouTube Premium และ AIS PLAY FAMILY ฟรีสูงถึง 6 เดือน รวมถึงเพิ่มโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก AIS เพื่อรับสิทธิชม Netfix นานถึง 3 เดือน (เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าเท่านั้นและต้องเป็นลูกค้า AIS รายเดือน ในนามบุคคลธรรมดาเท่านั้นอีกด้วย)
นอกจากนี้ ทาง OnePlus ยังเปิดตัวหูฟังไร้สาย Bullets Wireless Z ที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องสูงถึง 10 ชั่วโมง มีไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 9.2 มม. ด้วยราคาขายอยู่ที่ 1,999 บาท พร้อมขายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2020
นำเสนอบทความโดย : StepGeek.TV
ที่มา : oneplus, ais