สวัสดีครับ สำหรับ Nokia C10 นั้นได้เริ่มวางจำหน่ายเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งแฟน Nokia ก็ให้ความสนใจไม่น้อย เนื่องด้วยรุ่นนี้มีดีไซน์สวย และขนาดที่พกพาสะดวก อีกทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องหน้าจอใหญ่เต็มตา, สเปกคุ้ม ในระดับพื้นฐาน, มีกล้องถ่ายภาพให้ใช้งาน และแบตเตอรี่ที่รองรับชาร์จเร็ว ในวันนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะรีวิวเจาะลึกสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้ทุกท่านได้รับชมกัน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญทุกท่านไปรับชมกันได้เลยครับ
สเปก Nokia C10
– ตัวเครื่องมีขนาด 169.9×77.9×8.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 191 กรัม
– หน้าจอแสดงผลแบบ V-notch 2D Panda Glass ความละเอียดระดับ 1600×720 พิกเซล ในอัตราส่วน 20:9 ขนาด 6.5 นิ้ว
– ชิปเซ็ตประมวลผล Unisoc SC7331e
– หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-400 MP2
– หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB
– หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16GB พร้อมรองรับการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ 256 GB
– ระบบปฏิบัติการ Android 11 (Go Edition)
– กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.2
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.2
– รองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบ 4G LTE
– รองรับถาดซิมการ์แบบ Nano SIM+Nano SIM+MicroSD
– แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับ Quick Charge 1.0 (5V/1A)
– รองรับระบบสแกนใบหน้า
– มีให้เลือกสอง 2 สี ได้แก่ สี Light Purple และ สี Grey
– ราคา 2,390 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง

มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ V-notch 2D Panda Glassความละเอียดระดับ 1600×720 พิกเซล ในอัตราส่วน 20:9 ขนาด 6.5 นิ้ว

ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.2, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen

ด้านบนของเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของเครื่องมีช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

ด้านขวามีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านซ้ายของเครื่องไม่มีปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านหลังจะเป็นวัสดุโพลีคาร์บอเนตแบบด้าน ช่วยให้ถือใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.2 และลำโพงเสียงภายนอก ส่วนด้านในฝาหลังจะมีช่องใส่แบตเตอรี่ และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM จำนวน 2 ช่อง และช่องใส่ microSD โดยแบตเตอรี่จะมีความจุที่ 3000mAh
ดีไซน์ตัวเครื่องเป็นยังไงกันนะ?

ทางด้านดีไซน์ตัวเครื่อง ก็ต้องยอมรับว่ามีดีไซน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก โดยตัวเครื่องมีงานประกอบที่เหนือชั้นและการออกแบบเพรียวบางสไตล์นอร์ดิก และความใส่ใจในทุกรายละเอียด แม้กระทั่งดีไซน์ตัวเครื่องก็ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์เพื่อความกระชับ จับได้ถนัดมือ อีกทั้งยังใช้วัสดุที่ทนทาน แข็งแรง และสีที่กลมกลืนกับธรรมชาติ และทันสมัยเป็นอย่างมาก
จุดขายสำคัญของ Nokia C10
จากที่มีทาง HMD Global ทำการสำรวจ พบว่า ลูกค้า ส่วนใหญ่ อยากได้สมาร์ทโฟนที่มีจอขนาดใหญ่, ความปลอดภัยด้านการอัพเกรด ซีเคียวทุก 3 เดือน นาน 2 ปี, ในราคาประหยัด

จึงเป็นเหตุผลให้ทาง HMD Global มุ่งเน้นให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากที่สุด โดยมีจุดขายหลักตั้งแต่ ดีไซน์ตัวเครื่องที่ต้องยอมรับในเรื่องของความสวยงามแปลกตา แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอแสดงผลที่คมชัดใหญ่เต็มตาบวกกับความละเอียดระดับ HD+ ซึ่งช่วยให้รับชมคอนเทนท์ได้เต็มตามากขึ้น และสุดท้ายคือ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 3000 mAh ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานต่อเนื่องการใช้งานทั่วไปได้นานเพลิดเพลิน โดยทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวมานั้น คุณจะพบได้บนสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ ในราคาสุดคุ้มเพียง 2,390 บาท เท่านั้น!
หน้าจอ HD+ รูปทรงหยดน้ำใช้งานได้ดีเพียงใด
สำหรับหน้าจอแสดงผล นั้นจะเป็นแบบ V-notch 2D Panda Glass ความละเอียดระดับ 1600×720 พิกเซล ในอัตราส่วน 20:9 ขนาด 6.5 นิ้ว

จากการทดสอบในอาคาร หรือที่ร่มก็พบว่าด้วยหน้าจอแสดงผล สามารถแสดงผลรายละเอียดต่างๆ ได้คมชัด อีกทั้งยังเป็นหน้าจอแสดงผลคล้ายทรงหยดน้ำ กับขนาด 6.5 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่ในการแสดงคอนเทนท์ต่างๆ ได้กว้าง จึงช่วยให้ผู้ใช้รับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างสบายดวงตา โดยไม่ต้องเพ่งสายตาเพื่ออ่านข้อความต่างๆ นั่นเอง
อีกทั้งยังมีความคมชัดระดับ HD+ ซึ่งช่วยชมภาพยนตร์ หรือเล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลิน และยังมีฟีเจอร์ลดแสงสีฟ้ามารองรับสำหรับใช้งานในที่แสงน้อย เพื่อลดการเมื่อยล้าดวงตาได้

และจากการทดสอบด้วยการดูคลิปวิดีโอผ่านแอปพลิเคชัน Youtube ก็นับว่าแสดงสีสันได้ค่อนข้างตรง ไม่เพี้ยน
ประมวลผลด้วย Unisoc SC7331e จะไหวไหม!
อันดับแรกต้องบอกก่อนว่า Nokia C10 นั้น ทาง HMD Global มุ่งเน้นไปในเจาะกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับเบื้องต้นเป็นหลัก จึงได้ใส่สเปก กับฟีเจอร์เน้นไปทางด้านขั้นพื้นฐานเป็นหลักครับ

โดยมาพร้อมกับชิปเซ็ต Unisoc SC7331e พร้อมทำทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-400 MP2

โดยจากการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 5 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 70 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 254 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core จากการทดสอบจะเห็นได้ว่า ได้คะแนนอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก เนื่องด้วยมี CPU กับ GPU ที่เน้นการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก จึงไม่เหมาะกับการนำไปใช้งานที่มีการประมวลผลระดับสูง

ส่วนการตอบโจทย์ในเรื่องของการเล่นเกม เท่าที่ทางทีมงานได้ทดสอบ ก็พบว่า ก็พอเล่นเกมกราฟิกไม่สูงมากได้ ส่วนทางด้านเกมยอดฮิตอย่าง ROV หรือ PUBG Mobile จะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ แต่หากอยากจะลองเล่นจริงๆ แนะนำให้ปรับค่ากราฟิกเป็นต่ำสุด ก็พอที่จะเล่นได้ แต่อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่าไม่ค่อยเหมาะ เนื่องด้วยเกมนี้ใช้สเปกเครื่องค่อนข้างเยอะนั่นเอง
เพียงพอไหมกับ RAM 3GB + ROM 32GB
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยความแรมขนาด 2GB หากกล่าวถึงยุคปัจจุบัน แรมเพียงเท่านี้ นับว่าค่อนข้างน้อย แต่ก็ เพียงพอที่จะช่วยตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ สามารถใช้งานแอปพลิเคชันพร้อมๆ กันได้แบบไม่มีอาการหน่วง

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาด 16GB ซึ่งรองรับการบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเพียงพอที่จะบันทึกข้อมูลต่างๆ เอาไว้ภายในเครื่อง และหากไม่พอผู้ใช้ก็ยังสามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดถึง 256GB ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ และเพียงพอต่อการใช้งานขั้นพื้นฐานอย่างแน่นอน
กล้องดิจิทัลด้านหลัง-ด้านหน้า 5MP ถ่ายภาพเป็นอย่างไร?
ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น แต่ทางผู้ปลิตก็ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของการถ่ายภาพ จึงได้ใส่สเปกกล้องดิจิทัลด้านหลังมาให้ใช้งานกันด้วย โดยจะมาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหลังแความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2



นอกจากนี้ ในส่วนของการถ่ายภาพในสภาพแสงปกติก็สามารถทำได้ดี จะเห็นได้ว่ามีภาพถ่ายมีความคมชัดในจุดที่มีแสงสว่าง และในร่มเงาก็มีความคมชัดด้วยเช่นกัน ทางด้านสีสันของภาพก็ถือว่าทำได้ดีมีความสดใสดูเป็นธรรมชาติ แต่ในด้านของสีสันในร่มจะดูจืดลงสักเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ



สำหรับการถ่ายภาพย้อนแสง หรือในที่ร่ม จะเห็นได้ว่า สีสันของภาพจะดูค่อนข้างจืดลงกว่าการถ่ายภาพในสภาวะแสงปกติ แต่อย่างก็ดีรายละเอียดต่างๆ หรือความคมชัดก็ทำได้ดี มีความชัดเจนในระดับที่น่าพอใจเช่นกัน

ด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็ถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาได้ดีระดับนึง แถมยังมีโหมดบิวตี้ให้ใช้งานถึง 10 ระดับ ตามความชอบ
ในด้านของการถ่ายวิดีโอก็สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ HD (720p) ทั้งกล้องหน้า-กล้องหลัง ซึ่งจากที่ได้ทดลองใช้ ก็สามารถถ่ายวิดีโอออกมาได้คมชัด ซึ่งสมาร์ตโฟนราคาระดับนี้สามารถถ่ายภาพได้ดี ถ่ายวิดีโอก็ได้ นับว่าคุ้มค่าไม่น้อย
มาพร้อมระบบสแกนใบหน้า

โดย Nokia C10 นั้นมีระบบสแกนใบหน้าให้ใช้งาน และอย่างที่ทราบกันดีว่าโดยส่วนใหญ่แล้วสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้นนั้นจะมีระบบความปลอดภัยให้ใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ กับการตั้งรหัสความปลอดภัยภายในเครื่อง หรือระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า กับการตั้งรหัสความปลอดภัยภายในเครื่อง ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ การลดต้นทุนการผลิดนั่นเอง เพื่อที่จะวางจำหน่ายในราคาที่ไม่สูงมากจนเกินไป แต่ก็มีน้อยรุ่นมากๆ ที่จะให้ระบบสแกนใบหน้ามาให้ใงาน ส่วนใหญ่จะเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือซะส่วนใหญ่
เรียกใช้งาน Google Assistant ง่ายๆ เพียงคลิกเดียว

สามารถใช้งาน Google Assistant ได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง ก็สามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ได้ทันที ซึ่งการสั่งงานต่างๆ ก็ถือว่าแม่นยำ สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง แต่อย่างไรก็ดี การใช้งาน Google Assistant จะดี และเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ใช้ด้วย
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

Nokia C10 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 (Android Go Edition) ซึ่งการันตีเรื่องการอัปเดตทุก 3 เดือน ต่อเนื่องได้ 2 ปี อย่างแน่นอน อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด

มีบริการจาก Google ให้ใช้งานอย่างครบครัน

ปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย

สามารถท่องเว็บไซต์ได้อย่างไหลลื่น แม้จะเป็นการเปิดพร้อมกันหลายเบราว์เซอร์ก็ตาม

และสามารถเปิดใช้งานโหมดถนอมสายตาเพื่อลดแสงสีฟ้าได้อีกด้วย
แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นานเหมือนกันนะ

รุ่นนี้จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh ซึ่งทางเราได้ทดสอบจากการนำไปใช้งานทั้งในออฟฟิศ และนอกสถานที่ แบบ 1 วันเต็ม ทั้งการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก, ถ่ายภาพ และเล่นเกมบ้างเล็กน้อย ก็พบว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานประมาณ 6 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าแบตเตอรี่เพียงพอที่จะใช้งานได้นานตลอดวัน แต่หากท่านใดที่ใช้งานต่อเนื่องมากกว่าปกติ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป สามารถชาร์จแบตเตอรี่้ได้ตามสะดวก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้า
สรุปผลการทดสอบของ
จบลงไปแล้วนะครับสำหรับการรีวิว Nokia C10 สมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดสุดคุ้ม และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอใหญ่ 6.5 นิ้ว ที่มีความคมชัดระดับ HD+ รับชมคอมเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินเต็มตา พร้อมด้วยดีไซน์ที่สวย งานประกอบก็ดี และเพิ่ม microSD ได้มากถึง 256GB โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหน่วยความจำไม่เพียงพอต่อการใช้งาน, รองรับการสั่งงาน Google Assistant ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นได้, สเปกระดับเริ่มต้นใช้งานขั้นพื้นฐานได้ลื่นๆ และเล่นเกมได้ และแบตเตอรี่กำลังดีที่รองรับใช้งานได้หลายขั่วโมง

หากท่านใดที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติดังที่กล่าวมาทั้งหมด หรือกำลังมองหาเครื่องสำรองไว้ใช้ราคาประหยัด Nokia C10 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดย Nokia C10 วางจำหน่ายในราคา 2,390 บาท เท่านั้น!! ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ, TG Fone, Big C, และร้านค้าออนไลน์ หรือสามารถสอบถามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Fanpage Facebook Nokia Mobile สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
นำเสนอบทความโดย : Stepgeek.TV
ที่มา : Nokia