สมาร์ทโฟน Infinix HOT 12 Series เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นกลางของแบรนด์อยู่ในตระกูล HOT ที่มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ HOT 12i, HOT 12PLAY และ HOT 12 ซึ่งเป็นรุ่นที่จับกลุ่มตลาดวัยรุ่น (มีความเป็นวัยรุ่น สีสันสดใส แต่ก็ยังดูเท่ในเวลาเดียวกัน) มาในสโลแกนคอนเซ็ปต์ “Fast and Fun – เร็วสุด สนุกเต็มสปีด” เน้นเรื่องความเร็ว แรง ลื่นไหล สนุกไปได้กับทุกความบันเทิงได้ทั้งวัน ขายในราคาเป็นมิตรภาพสุดเริ่มต้นที่ 3,799 บาท ซึ่งก็วางขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้เราจะมาทำการมินิรีวิวรุ่น Infinix HOT 12 (6GB + 128GB) ให้ทุกคนได้อ่านกัน…

หัวใจหลักสำคัญของ HOT 12 นั้นก็คือ ยัดชิปเช็ตสายเกมอย่าง MediaTek G85 ลงไปในเครื่อง, หน้าจอไซส์ใหญ่ 6.82 นิ้ว ซึ่งจะดูหนังหรือดูซีรี่ส์ หรือแม้กระทั้งเล่นเกม ก็สามารถดูจอได้อย่างเต็มตา ความละเอียดแบบ HD+ จอรีเฟรชเรท 90Hz แน่นอนว่ามีความลื่นไหลในขณะที่ใช้งานและ Touch Sampling Rate 180Hz ทำให้ HOT 12 มีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสมาร์ทโฟน การเล่นเกมและแอปพลิเคชั่นที่มีความต้องการสู งอีกทั้ง ยังรองรับการใช้งานสำหรับสายเกมโดยเฉพาะอีกด้วยนะและสามารถตอบโจทย์ด้านความบันเทิงให้กับผู้ใช้งานมากที่สุด

แถมยังมี RAM 6 และมาพร้อมกับเทคโนโลยี Extended RAM สูงสุดอีก 5 GB ซึ่งก็ทำให้มีความจุสูงถึง 11GB เลยทีเดียว จะสามารถใช้แอพพลิเคชั่นที่ต้องการได้หลายตัวอย่างง่ายดายและใช้งานได้อย่างราบรื่นด้วยความสามารถในการสลับไปมาระหว่างแอพต่างๆ โดยไม่กระตุกและที่เก็บข้อมูลเพื่อเก็บทุกอย่างไว้ในที่เดียว เหล่าเกมเมอร์สามารถเพลิดเพลินกับอัตราเฟรมที่มีความลื่นไหลและมีความเร็วอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้ง แบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ซึ่งก็เป็นสเปกที่ดีที่สุดในเรทราคาเดียวกันและสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยาวนาน

รวมไปถึง ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 ที่จะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือกว่า การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรแบบไดนามิกการเชื่อมต่อที่ขับเคลื่อนโดย Helio G85 ของ MediaTek ทำให้เวลาตอบสนองและอัตราเฟรมเร็วขึ้นและการเชื่อมต่อที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้และช่วยลดเวลาล่าช้าลงอย่างมาก

ไม่เพียงเท่านี้นะ ยังมี HyperEngine ของ MediaTek ที่ผสมผสานเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์ในการเล่นเกม ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ชอบเล่นเกมจะได้รับประสิทธิภาพที่ราบรื่นยิ่งขึ้นในเอ็นจิ้นเกมที่โหลดหนักๆ พร้อมกับการจัดการแบบไดนามิกที่ชาญฉลาด และเทคโนโลยี Dar-link Ultimate AI Game Booster ของ Infinix เป็น AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ
ซึ่ง AI จะปรับปรุงการแสดงผลกราฟิกและความไวของหน้าจอสัมผัสด้วยความสามารถอัลกอริธึมที่เรียนรู้และประเมินภาพกราฟฟิคของเกมส์ร่วงหน้าเพื่อลดเวลาล่าช้า (Lag) และ HOT10S จะปรับความเร็วในการทำงานของ CPU และ GPU อย่างชาญฉลาดและจัดสรรทรัพยากรเพื่อปรับปรุงภาพและการเคลื่อนไหวในสถานการณ์การเล่นเกมที่แตกต่างกัน เมื่อรวมกันแล้วจะสร้างประสบการณ์การสลับฉากที่เสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้นขณะเล่นเกม เห็นไหมล่ะว่า Infinix HOT 12 นั้นเหมาะกับสายเกมในราคาประหยัดและคุ้มค่าที่สุดจริงๆ

รองรับ Dual 4G SIM ให้คุณภาพการโทรด้วยเสียงและวิดีโอที่ยอดเยี่ยมผ่านบริการ VoLTE / ViLTE พร้อมด้วยเวลาในการตั้งค่าการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นความครอบคลุมที่เชื่อถือได้มากขึ้นและการใช้พลังงานที่ลดลงจากการเชื่อมต่อซิม
สำหรับการดีไซน์ตัวเครื่องก็มีความทันสมัย ดูเท่และเหมาะสำหรับกลุ่มคนวัยรุ่น แต่บอกก่อนนะว่า ใครที่ไม่ใช่วัยรุ่นก็สามารถใช้ได้เช่นกัน สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีในราคาที่ไม่ถึง 5,000 บาท และจะมีทั้งหมด 3 สี ให้เลือก ได้แก่ สีดำ Racing Black, สีขาว Legend White และสีฟ้า Origin Blue
อีกทั้ง ขนาดตัวเครื่องไม่หนาจนเกินไป สามารถถือจับได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าตัวบอดี้จะเป็นพลาสติกแต่ตัวเครื่องก็ยังดูความดูเท่และพรีเมียมอยู่เหมือนกันนะ

กล้องถ่ายภาพใส่มา 13MP มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ ISOCELL S5K3L6 คุณภาพก็ตามราคานะคะ ถ่ายภาพก็มาได้อย่างสวยงาม โหมดการถ่ายภาพพื้นฐานก็ให้มาครบ


ในส่วนของการเล่นเกม เห็นเรทราคาขายแบบนี้สมาร์ทโฟน Infinix ก็ไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ นะจ๊ะ เมื่อทดลองเล่นเกม Freefire / PUGB / ROV ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล แม้ว่าจะปรับค่าเฟรมเรทสูงก็ตาม อีกทั้ง เมื่อเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่แล้ว…ยิ่งเห็นศัตรูได้ดีกว่าปกติ (สำหรับเกมยิงปืน)

ท้ายที่สุดสำหรับราคาขายในตลาดไทยก็เป็นมิตรภาพซะเหลือเกิน ซึ่งทั้งหมด 3 รุ่นย่อยวางขายในประเทศไทยไม่เกิน 5,000 บาท เลย เริ่มต้นกันที่รุ่น HOT 12i กันก่อนวางขายในราคา 3,799 บาท ส่วนรุ่น HOT 12 PLAY จะมีทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน
- รุ่น 64GB + 4GB ราคาขาย 3,999 บาท
- รุ่น 128GB + 4GB ราคาขาย 4,299 บาท
และรุ่นสุดท้ายที่เรารีวิวคือ Infinix HOT 12 ที่วางขายในราคา 4,999 บาทเท่านั้นเอง สำหรับราคานี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยนะ ที่มาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็ม หน้าจอใหญ่ ยัดชิปที่เน้นสายเกม แบตเตอรี่ 5,000 mAh แถมยังรองรับชาร์จเร็วอีกต่างหาก และสำหรับ Infinix HOT 12 นั้นก็ตอบโจทย์กับทุกเพศทุกวัย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานและความบันเทิงให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีจริงๆ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะคะ พบกันใหม่ครั้งหน้ากับการรีวิวฉบับมินิ สวัสดีค่ะ….