Lightyear เป็นบริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ทำการบุกเบิกรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ “Lightyaer 0” ที่สามารถวิ่งได้ไกลเป็นคันแรกของโลก โดยนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในการขับเคลื่อน จะว่าไป Lightyear 0 ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรถต้นแบบที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 อย่าง Lightyear One มากเท่าไหร่ แต่ทางซีอีโอเผยว่า จะมีแบตเตอรี่ที่เล็กกว่า, มีระบบกำลังมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกและน้ำหนักของตัวรถที่เบากว่าเดิม
Lightyear 0 จะได้รับการติดตั้งแผงโซลาเซลล์ไว้ที่หลังคารถและฝากระโปรงรถ ซึ่งมันจะทำการชาร์จพลังงานโดยอัตโนมัติ แม้ว่ารถจะจอดอยู่ก็ตาม ซึ่งตัวแผงโซลาเซลล์นั้นจะสามารถผลิตไฟฟ้าชาร์จให้กับแบตเตอรี่ได้ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนั่นหมายความว่าจะสามารถขับรถยนต์ไฟฟ้า Lightyaer 0 ได้นานเป็นเดือนเลยแหละโดยที่ไม่ต้องเสียบชาร์จแบตเตอรี่เลย ถ้าหากประเทศที่มีแดงจัดๆ จะสามารถวิ่งได้ไกล 35 กิโลเมตรต่อวัน ได้นานถึง 7 เดือน แต่ประเทศที่มีเมฆเยอะหรือแสงแดดอ่อนจะสามารถวิ่งได้นาน 2 เดือน โดยที่ไม่ต้องชาร์จ (ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ/พื้นที่ ที่มีแสงแดดมากน้อยแตกต่างกันไป)
และถ้าหากแบตเตอรี่ชาร์จเต็มแล้วจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 625 กิลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP แต่ถ้าหากมีแสงแดดที่จัดๆ รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ Lightyear 0 จะได้รับแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มที่และสามารถเพิ่มระยะในการวิ่งไปอีก 70 กิโลเมตรต่อวัน
นอกจากนี้ Lightyear 0 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด 4 ตัว มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยเวลา 10 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนภายในห้องโดยสาร มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ได้รับการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มีความเรียบง่าย วัสดุภายในจะเป็นหนังเทียมวีแกนทั้งหมดและเป็นสิ่งทอที่มาจากธรรมชาติ อย่างเบาะหนังไมโครไฟเบอร์ที่มีคุณภาพสูง สามารถนำมารีไซเคิลได้และการตกแต่งรายละเอียดใช้วัสดุจากหวาย
รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ Lightyear 0 จะผลิตออกมาเพียง 946 คันเท่านั้น และวางขายในราคา 250,000 ยูโร หรือประมาณ 9,222,280 บาท ซึ่งราคาก็แพงกว่า Ferrari Roma อยู่เล็กน้อย
นอกจากนี้ ทางบริษัท Lightyear มีแผนว่าจะพัฒนาและเปิดตัว Lightyear Two รุ่นต่อไปภายในปี 2025 (แต่ก็ยังไม่แน่นอน) และจะวางขายในราคาที่ถูกกว่าอยู่ที่ 30,000 ยูโร หรือประมาณ 1,106,680 คือถ้าใครไม่รีบก็รอคันนี้จะดีกว่า คือเป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้มากกว่า…..
