เป็นระยะเวลานานถึง 4 ปีแล้ว ที่ทาง Huawei เองได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่น Watch 2 ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Wear OS ตั้งแต่ปี 2017 และล่าสุด Huawei ก็ได้ประกาศเปิดตัว Huawei Watch 3 และ Watch 3 Pro ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของตัวเองที่ได้พัฒนาขึ้นมาใช้งานบนอุปกรณ์ทั้งหลายของ Huawei

การออกแบบของหัวเว่ย Watch 3 และ Watch 3 Pro นั้นมีความแตกต่างกัน แต่ใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมทั้งคู่ รวมไปถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 3 วัน แถมยังมาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็ม หน้าจอ OLED แสดงผลสี และมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่เปิดใช้งานอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ทั้งนี้สเปกจะมีความคล้ายกันอยู่
หัวเว่ย Watch 3
โดยในรุ่น Watch 3 มาพร้อมกับการดีไซน์ที่เรียบง่าย ด้วยหน้าปัดทรงกลมและสายนาฬิกาแบบหนังสุดคลาสสิค โดยจะมีก้านมะยมแบบหมุนได้ ใช้ในการควบคุมหรือเลือกเมนูต่างๆ วางอยู่ตำแหน่งขวาบนเหมือนกับ Apple Watch

หน้าจอแสดงผลที่มีความบางลง มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 1.43 นิ้ว ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้านี้ อัตรารีเฟรชเรท 60Hz ความสว่างของสูงสุด 1,000 nits ซึ่งสามารถใช้งานได้ที่กลางแดดจ้าได้อย่างสบายๆ ความหนาแน่นของพิกเซลไว้ที่ 326 ppi และครอบทับด้วยกระจกชนิดแข็ง ส่วนตัวเรือนนาฬิกาทำมาจากสแตนเลสสตีลที่มีคุณภาพและเซรามิก

สำหรับสายนาฬิกาทาง Huawei ได้มีการออกแบบสายนาฬิกาที่มีความแตกต่างกันทั้งหมด 4 แบบ คือ รุ่น Active สายซิลิโคน, รุ่น Classic สายแบบหนัง, รุ่น Elite สายแบบโลหะและรุ่น Classic สายแบบ Milanese ที่ใช้สายถักทอพิเศษจากกรุมมิลาน

ทั้งนี้ ยังมาพร้อมกับการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, ติดตามออกซิเจนในเลือด (SpO2) และยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิผิวหนังอีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้ง ยังตรวจจับความเครียดและการนอนหลับตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และมีโหมดการออกกำลังกายทั้งหมด 100 แบบ แถมยังมีฟีเจอร์ Fall Detection มาให้ ไว้กรณีฉุกเฉิน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถส่งแจ้งเตือนเพื่อขอความช่วยเหลือได้

รวมถึงยังรองรับการใช้งานควบคู่ไปกับ eSIM ได้อีกด้วย ที่สามารถเชื่อมต่อ 4G ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานโทรศัพท์หรือจะวิดีโอคอลผ่านจากนาฬิกาได้เลย ทั้งนี้ หัวเว่ย Watch 3 ยังมี AppGallery ติดตั้งมาให้เลยตั้งแต่โรงงาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดหรือติดตั้งแอปต่างๆ ได้เลยบนสมาร์ทวอทช์ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน
นอกจากนี้ หัวเว่ยได้เคลมว่า หัวเว่ย Watch 3 สามารถใช้งานแบบต่อเนื่องยาวนานถึง 3 วัน เมื่อเปิดใช้งานแบบ 4G แต่ถ้าเปิดโหมด Ultra-Long Lasting ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 14 วันเลยทีเดียว
หัวเว่ย Watch 3 Pro
รุ่น Pro ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับการเปิดตัวพร้อมกับรุ่นธรรมดา ซึ่งสเปกนั้นก็อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่แรกว่ามีความคล้ายกัน แต่ความแตกต่างนั้นอยู่ที่การออกแบบ โดยในรุ่น Pro นั้น จะมีความคลาสสิคกว่าเล็กน้อยและใช้วัสดุที่มีความพรีเมี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ โดยใช้วัสดุเป็นไทเทเนียมและเซรามิค ส่วนหน้าจอครอบทับด้วยกระจก Shapphire

ส่วนเรื่องการใช้งานของแบตเตอรี่นั้น สามารถใช้งานได้นานถึง 5 วัน เมื่อเปิดใช้งาน 4G แต่ถ้าหากเปิดโหมด Ultra-Long Lasting ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 21 วันเลยทีเดียว ซึ่งการใช้งานนั้นจะนานกว่ารุ่นธรรมดาอยู่เล็กน้อย


ทั้งนี้ ราคาขายหัวเว่ย Watch 3 เริ่มต้นที่ 2,599 หยวน หรือประมาณ 12,600 บาท และจะมีทั้งหมด 4 แบบ ให้เลือกตามสไตล์ของผู้ใช้งาน ส่วนราคาขายรุ่น Pro เริ่มต้นที่ 3,299 หยวน หรือประมาณ 16,00 บาท และมีทั้งหมด 2 แบบให้เลือก ได้แก่ Classic และ Elite