สวัสดีครับ หากยังจำกันได้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาทาง Samsung ประเทศไทย ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่นเลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Samsung Galaxy Note 10 Lite น้องเล็กสุดของ Galaxy Note 10 Series โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีการปรับลดสเปกบางอย่างลงมาเพื่อให้จัดจำหน่ายในราคาได้ย่อมเยากว่าเดิม แต่ยังคงไว้ซื้อประสิทธิภาพของปากกา S-Pen ที่ใส่ฟีเจอร์มาครบเทียบเท่ากับรุ่นพี่ๆ เลยทีเดียว ทางด้านอื่นๆ ก็นับว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลสุดคมชัด, สเปกเครื่องระดับท็อป, กล้องถ่ายภาพพัฒนายิ่งขึ้น, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้งานได้ยาวนาน และวางจำหน่ายในราคาไม่ถึง 20,000 บาท นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ทางทีมงาน StepGeek.TV ก็ได้ยกจุดเด่นทั้ง 5 ที่คุณจะได้พบเมื่อเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy Note 10 Lite และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญทุกท่านรับชมกันได้เลยครับ
สเปกแบบคร่าวๆ ของ Samsung Galaxy Note 10 Lite
– ระบบปฏิบัติการ Android 10
– ชิปเซ็ต Exynos 9810
– ชิปกราฟิกแบบ Mali-G72 MP18
– หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Infinity-O Display ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว
– รองรับปากกา S Pen
– หน่วยความจำภายในขนาด 128GB พร้อมรองรับการเพิ่มการ์ด microSD ได้สูงสุด 1TB
– หน่วยความจำแรมขนาด 8GB
– กล้องถ่ายภาพด้านหลัง 3 เลนส์ (Triple-Camera) โดยกล้องตัวแรกมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Wide) ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/1.7, กล้องตัวที่สองความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Telephoto) ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/2.4, กล้องตัวที่สามความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Ultra-Wide) ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/2.2 กับมุมมองกว้าง 123 องศา นอกจากนี้ ยังมีระบบกันสั่นแบบ Dual OIS, ระบบโฟกัสภาพแบบ Dual Pixel และไฟแฟลช LED
– กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/2.2
– แบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 25W (รองรับสูงสุด 45W)
– ขนาดตัวเครื่อง 163.7×76.1×8.7 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 199 กรัม
– รองรับพอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร
– รองรับพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล
– ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot
– รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
– รองรับเซ็นเซอร์สแกนนิ้วที่ใต้หน้าจอ และระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
– มีให้เลือก 2 สี คือ Aura Glow กับ Aura Black
1. รับชมได้เต็มตาด้วยหน้าจอSuper AMOLED Infinity-O Display
สำหรับหน้าจอแสดงผลของ Samsung Galaxy Note 10 Lite จะเป็นแบบ Super AMOLED Infinity-O Display ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว
ทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินโดยเฉพาะการชมภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ ผ่านหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ Samsung Galaxy Note 10 Lite ยังสามารถแสดงผลภาพออกมาได้คมชัดเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยหน้าจอแสดงผลมีความละเอียด 2400×1080 พิกเซล ทำให้การเล่นเกม หรือชมวิดีโอได้อย่างคมชัด และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Samsung Galaxy Note 10 Lite ยังรองรับฟังก์ชันการลดแสงสีฟ้า สำหรับใช้งานในสภาวะแสงน้อยได้ ทำให้สามารถใช้นอนอ่าน E-Book หรือรับชมซีรี่ส์ ก่อนนอนได้อย่างสบายๆ
2. ปากกา S-Pen มีฟีเจอร์ครบเหมือนรุ่นพี่
ทางด้านปากกา S-Pen ของ Samsung Galaxy Note 10 Lite นั้นมีฟีเจอร์รองรับต่างๆ แบบเดียวกับ Galaxy Note 10 แทบทั้งสิ้น ลองมารับชมกันว่าทำอะไรได้บ้าง
ส่วนการดึงปากกา S-Pen ออกมาจากตัวเครื่องก็จะสามารถใช้งานฟังก์ชัน Screen of Memo โดยผู้ใช้สามารถจดบันทึก หรือวาดเขียนสิ่งต่างๆ ได้ในทันที และสามารถบันทึกได้หลายหน้า พร้อมทั้งตั้งค่าให้โชว์ที่หน้า Always On Displays เพื่อกันหลงลืมได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ปากกา S-Pen ยังทำหน้าที่ในการปลดล็อกหน้าจอ เพียงแค่กดที่ปุ่ม 1 ครั้ง ขณะที่เครื่อง Samsung Galaxy Note 10 Lite อยู่ในโหมดสลีป
รองรับฟังก์ชัน Air View ซึ่งเป็นการดูตัวอย่างข้อมูลต่างๆ เช่น ดูรูปภาพ, ข้อความ, ข้อมูลเว็บไซต์ หรือวิดีโอ
เลือกเปิด-ปิด การโชว์ฟังก์ชัน Air Command พร้อมทั้งจัดเรียงฟังก์ชัน หรือแอปพลิเคชันใน Air Command ด้วยตนเองได้ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าได้ว่าเมื่อดึง ปากกา S-Pen จะเป็นการเรียกใช้งานฟังก์ชันใด ซึ่งเลือกได้ 3 แบบ ได้แก่ เรียกใช้งานฟังก์ชัน Air Command, เรียกใช้งาน Samsung Note และปิดการทำงานคือไม่เรียกใช้งานฟังก์ชันใดเลย
สามารถเปิด-ปิด การแจ้งเตือนเมื่อปากกา S-Pen อยู่ไกลจากตัวเครื่องในระยะที่ขาดการเชื่อมต่อ, เปิด-ปิด การตรวจจับปากกา S-Pen เพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่, เปิด-ปิด เสียงการดึงปากกา S-Pen ออกจากเครื่อง หรือเสียงการเขียนของปากกา S-Pen และสามารถเปิด-ปิดการสั่นเตือนขณะดึงปากกา S-Pen ออกมาใช้งาน หรือเสียบปากกา S-Pen กลับที่ช่องเก็บ
ในส่วนของฟังก์ชัน Air Command ก็จะเหมือนกับบน Samsung Galaxy Note 9 แทบทั้งสิ้น เริ่มกันที่แอปพลิเคชัน Samsung Note ซึ่งผู้ใช้สามารถจดบันทึกสิ่งต่างๆ ที่ต้องการได้ พร้อมทั้งสามารถเลือกรูปแบบของหัวปากกา, สีหัวปากกา หรือแม้แต่การแนบภาพถ่าย ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนเป็นโหมดของการวาดภาพ
ต่อมาคือแอปพลิเคชัน Smart Select ซึ่งจะเป็นการบันทึกสิ่งที่น่าสนใจบนหน้าจอด้วยปากกา S-Pen พร้อมทั้งเขียนข้อความที่ต้องการลงไปได้ ซึ่งจะมีรูปแบบให้เลือก 4 อย่างด้วยกัน คือ แบบสี่เหลี่ยม, แบบบ่วง, แบบวงรี และแบบไฟล์ GIF ซึ่งผู้ใช้จะต้องทำการเปิดวิดีโอที่ต้องการขึ้นมา แล้วกดบันทึก เพียงเท่านี้ ก็จะได้ไฟล์ GIF สนุกๆ ไว้ใช้งาน
ถัดมาจะเป็นแอปพลิเคชัน Screen Write ซึ่งจะเป็นการจับภาพหน้าจอที่ต้องการ หลังจากนั้นผู้ใช้ก็นำมาเขียน หรือไฮไลท์ข้อความสำคัญ โดยจะเหมาะกับการอ่าน E-book ซึ่งผู้ใช้สามารถไฮไลท์ข้อความที่ต้องการได้
มาต่อกันที่ฟังก์ชัน Live Message ซึ่งจะเป็นการสร้างข้อความด้วยการเขียน หรือวาดผ่านปากกา S-Pen พร้อมทั้งบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหว นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเอฟเฟกต์การเขียน, รัศมีของปากกา, สีปากกา, สีภาพพื้นหลัง, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และการใส่สติกเกอร์ หรืออิโมจิ เรียกได้ว่า คุณสามารถสร้างข้อความที่มีเพียง 1 เดียวในโลกได้ด้วยมือของคุณเองผ่าน Samsung Galaxy Note 10 Series
ฟังก์ชัน Translate จะเป็นการแปลภาษาข้อความบนหน้าจอที่ต้องการผ่านปลายปากกา S-Pen โดยมีภาษาให้เลือกใช้งานมากมาย อีกทั้งยังสามารถเลือกการแปลเป็นคำ หรือแปลเป็นประโยคได้ เรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายไม่น้อยเลยทีเดียว
ใน Samsung Galaxy Note 10 Lite ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันใหม่อย่าง PENUP ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับคนที่ชื่นชอบการวาดภาพ โดยผู้ใช้สามารถวาดภาพต่างๆ ผ่านปากกา S-Pen พร้อมโพสต์โชว์ในแอปพลิเคชันนี้ผ่าน Samsung แอคเคานท์ เพื่อให้ผู้ใช้ท่านอื่นได้มาชื่นชมผลงานของคุณได้ ไม่เพียงเท่านั้น ในแอปพลิเคชัน PENUP ยังมีโครงสร้างภาพเพื่อให้มือใหม่ฝึกการระบายสี หรือวิดีโอตัวอย่างการระบายสี หรือการลงสี (Colouring) แล้วเราก็ฝึกระบายสี หรือแรงเงาสีตาม เรียกได้ว่า อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่สร้างสรรค์มากๆ จากทาง Samsung
ยังมีในส่วนของแอปพลิเคชัน Magnify หรือแว่นขยาย สำหรับขยายข้อความ หรือตัวหนังสือขนาดเล็ก โดยสามารถขยายได้ตั้งแต่ 150% – 300% เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นได้
สุดท้ายคือฟังก์ชัน Glance ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถย่อแอปพลิเคชันที่ใช้งานล่าสุดเป็นหน้าต่างเล็ก เพื่อใช้งานฟังก์ชัน หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ ต่อได้ในทันที หากต้องการใช้งานแอปพลิเคชันที่ย่อไว้ตอนแรกเพียงแค่เอาปากกา S-Pen มาจ่อเท่านั้น แอปพลิเคชันก็จะขยายกลับมาเต็มจอ และใช้งานต่อได้ทันที
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือปากกา S-Pen สามารถทำงานร่วมกับฟังก์ชัน Bixby ได้ เช่น หากผู้ใช้ต้องการหาข้อมูลในรูปภาพที่ต้องการ เพียงแค่เป็นรูปภาพดังกล่าวขึ้นมาแล้วนำปากกา S-Pen ไปชี้ฟังก์ชัน Bixby ก็จะทำการค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตให้กับเรา พร้อมแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาพถ่าย เรียกได้ว่า สะดวกสบายเป็นอย่างมาก
และที่พิเศษไปกว่านั้นคือมีฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า AR Doodle คือ การวาดเขียนสิ่งต่างๆ ตามต้องการไปที่ตัวแบบ โดยการใช้งานฟังก์ชันนี้จำเป็นต้องให้กล้องนั้นตรวจจับใบหน้าให้เจอเสียก่อน ถึงจะทำการวาดๆ เขียนๆ ได้ โดยสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ทั้งกล้องด้านหน้า และด้านหลัง
ซึ่งจากข้อมูลแนะนำฟังก์ชันของปากกา S-Pen ทั้งหมดดังที่กล่าวมา ก็จะเห็นแล้วว่า Samsung Galaxy Note 10 Lite มีฟังก์ชันของปากกาให้ใช้งานไม่ต่างจากพี่ใหญ่ของค่ายเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น เรื่องของการตอบโจทย์การใช้งานแทบจะไม่ต่างกัน ทำให้ผู้ที่งบไม่สูงมาก แต่อยากได้ Galaxy Note 10 ที่ราคาจับต้องได้ง่าย Galaxy Note 10 Lite ก็ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดี ปากกา S-Pen ของ Galaxy Note 10 Lite ไม่มีรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางแบบของ Galaxy Note 10 ได้ ซึ่งผู้เขียนก็คิดว่าเมื่อเทียบกับราคาฟีเจอร์นั้นไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะฟีเตอร์ที่มีอยู่ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
3. ชิปเซ็ตดีใช้งานได้หลากหลาย!
สำหรับชิปเซ็ตที่ใช้บน Samsung Galaxy Note 10 Lite นั้นจะเป็นชิปเซ็ต Exynos 9810 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่เคยใช้งานอยู่บน Galaxy Note 9 โดยหากเทียบประสิทธิภาพกับชิปเซ็ตในปัจจุบันก็ต้องบอกเลยว่าชิปเซ็ต Exynos 9810 ก็ถือว่าจัดอยู่ในระดับท็อปได้ แต่อาจจะไม่ถึงขนาดท็อปสุด แต่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดั่งใจทุกด้านอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของการใช้งานประมวลผลอย่างการตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกม สามารถตอบสนองได้ดีเป็นแน่แท้
โดยจากการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 335692 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 5 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 1318 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 455 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core จากการทดสอบจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Note 10 Lite นั้นได้คะแนนในอันดับที่ 31
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เนื่องด้วย Samsung Galaxy Note 10 Lite มีสเปกเครื่องที่เคยเป็นอันดับท็อปมาก่อน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งานต่างๆ ที่จะตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ เพราะจากการทดสอบก็คงจะเห็นได้ว่าชิปเซ็ต Exynos 9810 ก็สามารถทำคะแนนออกมาได้ดี และแอปพลิเคชันในปัจจุบันก็มีน้อยมากๆ ที่จะกินทรัพยากรเครื่องหนักๆ นอกเสียจากการเล่นเกมพร้อมกับปรับกราฟิกสูงสุด เป็นต้น
ทางด้านชิปกราฟิกอย่าง Mali-G72 เท่าที่ได้ทดสอบด้วยการเล่นเกมอย่าง PUBG Mobile หรือ Asphalt 9 ก็ต้องอธิบายตามตรงว่าชิปกราฟิกตัวนี้ยังสามารถเล่นเกมได้ดี โดยไม่มีอาการหน่วงให้รำคาญใจ แต่หากเป็นการเล่นเกมต่อเนื่องสักระยะเวลาหนึ่ง พร้อมปรับค่ากราฟิกสูงสุด ก็จะพบว่าตัวเครื่องมีการเริ่มสะสมความร้อนอยู่ไม่น้อย และส่งผลให้การเล่นเกมมีอาการหน่วงออกมาให้พบบ้างในบางช่วง ซึ่งหากเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นเกม ผู้เขียนแนะนำให้ปรับกราฟิกเหลือระดับกลางก็จะช่วยเรื่องความร้อนสะสมลดลงได้ครับ
4. มี RAM 8GB+ROM 128GB
Samsung Galaxy Note 10 Lite นับเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน่วยความจำแรมที่สูงสุดคือ มีหน่วยความจำแรมมากถึง 8GB ซึ่งเป็นหน่วยความจำแบบ LPDDR4X เป็นรุ่นใหม่ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เรื่องการใช้งานคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย ด้วยหน่วยความจำแรมมากถึง 8GB สามารถใช้งานต่างๆ ได้ดีเหลือเฟือแน่นอน
ไม่เพียงแค่นั้น Samsung Galaxy Note 10 Lite ยังมีหน่วยความจำภายในขนาด 128GB ซึ่งเป็นเวอร์ชัน UFS 2.1 ที่มีความสามารถในการอ่าน หรือเขียนได้รวดเร็วทันใจ เรียกได้ว่า การบันทึกภาพ หรือการอ่านไฟล์ต่างๆ รวดเร็วทันใจอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีราคาไม่ถึง 17,990 บาท นับว่า Samsung Galaxy Note 10 Lite ถือเป็นสมาร์ทโฟนมีภาษีที่ดีกว่าสมาร์ทโฟนในระดับเดียวกัน ไม่เพียงแค่นั้น Samsung Galaxy Note 10 Lite ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดอีก 1TB เรียกได้ว่า ใส่ซีรี่ย์ 3-4 เรื่อง เอาไว้ดูเพลินๆ ได้สบายๆ รวมถึงสามารถเก็บบันทึกข้อมูลได้จำนวนเยอะ และเพียงพอต่อการใช้งานในระยะยาวแบบไม่ต้องกังวลเรื่องหน่วยความจำเต็มจนทำให้เครื่องประมวลผลช้าลงแต่อย่างใด
5. กล้อง 3 เลนส์ คมชัดใช้ได้
สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหลังของ Samsung Galaxy Note 10 Lite จะมีความคล้ายคลึงกับ Galaxy S10+ อยู่พอสมควร หมายถึงในแง่ของเซ็นเซอร์ กับความละเอียด รวมไปถึงรูรับแสงด้วยเช่นกัน โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังของ Samsung Galaxy Note 10 Lite จะเป็นแบบ 3 เลนส์ (Triple-Camera) โดยกล้องตัวแรกมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Wide) ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/1.7, กล้องตัวที่สองความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Telephoto) ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/2.4, กล้องตัวที่สามความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Ultra-Wide) ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/2.2 กับมุมมองกว้าง 123 องศา นอกจากนี้ ยังมีระบบกันสั่นแบบ Dual OIS, ระบบโฟกัสภาพแบบ Dual Pixel และไฟแฟลช LED
สำหรับกล้องตัวแรกนั้นที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล จะเน้นการถ่ายภาพทั่วไป กับถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย เนื่องจากมีขนาดรูรับแสง F/1.7 ประโยชน์ของการมีรูรับแสงที่กว้างคือสามารถเก็บแสงบริเวณโดยรอบได้เยอะ จึงเหมาะกับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี
โดยจากการทดสอบ Samsung Galaxy Note 10 Lite สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยผ่านโหมดถ่ายภาพกลางคืนออกมาได้อย่างคมชัด สีสันแสงต่างๆ ก็ดูสดใส พร้อมทั้งเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างคมชัด และไม่มีนอยส์ให้พบเจอ ไม่เพียงแค่นั้น สีสันของภาพก็มีความคมชัด แม้จะเป็นในที่แสงน้อย และสามารถถ่ายภาพได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง เพียงแค่เลือกโหมดถ่ายภาพกลางคืนก็สามารถถ่ายภาพได้ทันที
ทางด้านการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ Samsung Galaxy Note 10 Lite ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน จากภาพจะเห็นได้ว่าตัวแบบมีรายละเอียดที่ชัดเจน ขอบตัวแบบก็คมชัด ซึ่งตัดขอบกับฉากหลังได้อย่างเนียนส่วนฉากหลังก็เบลอได้ดีอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผู้ใช้ภาพถ่ายได้หลากหลายมากขึ้นได้
ต่อมากล้องตัวที่สองความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Telephoto) ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/2.4 ซึ่งสามารถทำการซูมได้ที่ระดับ 2x และสามารถซูมแบบดิจิทัลได้สูงสุดที่ 10x ซึ่งจากการที่ได้สอบก็พบว่าภาพการซูมระดับ 2x ก็มีความคมชัดในระดับที่น่าพอใจรายละเอียดต่างๆ อยู่ครบไม่เบลอ หรือรายละเอียดแตก แต่หากเป็นการซูมระดับ 10x ก็สูญเสียความคมชัดอยู่บ้าง หากต้องการความคมชัดผู้เขียนแนะนำให้ใช้ขาตั้งกล้องร่วมด้วยจะช่วยให้ภาพที่ได้มีความคมชัดมากขึ้น
ส่วนกล้องตัวสุดท้ายความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (Ultra-Wide) ซึ่งมีขนาดรูรับแสง F/2.2 จะเหมาะสำหรับการถ่ายภาพมุมมองกว้าง หรือการถ่ายวิวธรรมชาติ เนื่องด้วยเลนส์ตัวนี้มีมุมมองกว้างถึง 123 องศา ทำให้สามารถเก็บบรรยากาศทิวเขา หรือชายหาด พร้อมท้องทะเลได้กว้าง และจากการที่ได้ทดสอบก็พบว่าภาพถ่ายมุมมองกว้างที่ได้มีความคมชัดเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะว่าทางซัมซุงได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกับเลนส์กล้องได้เป็นอย่าง จึงช่วยให้ถ่ายภาพออกมาคมชัด
6. แบตเตอรี่สุดอึด และมีชาร์จเร็ว
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ Samsung Galaxy Note 10 Lite มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ซึ่งมีปริมาณที่ที่ถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่ก็ถือเป็นความจุที่เพียงพอต่อการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน โดยจากการทดสอบด้วยการใช้งานตลอดระยะเวลา 1 วันเต็ม ไม่ว่าจะเป็น เล่นแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก, ดูคลิปบน Youtube, ถ่ายภาพ หรือท่องเว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึงการแวะเล่นเกมบ้างพอสมควร ก็พบว่าแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy Note 10 Lite อึดใช้ได้เลยทีเดียว อาจเป็นเพราะว่า Samsung Galaxy Note 10 Lite มีสเปกเครื่องระดับท็อปจึงจัดการในส่วนของการใช้งานแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี
และเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เนื่องด้วย Samsung Galaxy Note 10 Lite รองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงได้ 25W ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วทันใจ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Samsung Galaxy Note 10 Lite นั้นรองรับการชาร์จได้สูงสุดถึง 45W เพียงแต่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมในส่วนนี้เพิ่มเติมที่ศูนย์บริการครับ
สรุปส่งท้าย
ก็จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการแนะนำ 6 จุดเด่นที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy Note 10 Lite ซึ่งจุดเด่นที่ทางทีมงานได้เลือกมาแนะนำนั้น เชื่อได้เลยว่า Samsung Galaxy Note 10 Lite เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีความสามารถหลากหลาย โดยเฉพาะฟีเจอร์ที่รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S-Pen ที่เรียกได้ว่า ทำได้เหมือนกันทุกอย่างกับ Galaxy Note 10 แต่จับต้องได้ในราคาที่ย่อมเยากว่า นั่นหมายความว่า ผู้ใช้ที่กำลังต้องการฟีเจอร์ทำงานร่วมกับปากกา S-Pen แต่ไม่ได้สเปกท็อปล่าสุด แต่ก็ต้องประมวลต่างๆ ได้ดี Samsung Galaxy Note 10 Lite ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องด้วยสเปกเครื่องของ Samsung Galaxy Note 10 Lite ก็จัดว่าโดดเด่นสามารถตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย
สำหรับข้อมูลในข้างต้นที่ผู้เขียนหยิบมานำเสนอเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งของ Samsung Galaxy Note 10 Lite เท่านั้น! บนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์ กับสิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งสามารถอ่านได้จากรีวิว Samsung Galaxy Note 10 Lite ฉบับเต็มที่นี่ หากท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อ Samsung Galaxy Note 10 Lite ได้แล้ววันนี้ในราคา 17,990 บาท (ราคาปัจจุบัน) ซึ่งหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Samsung Brand Shop ทุกสาขา หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
นำเสนอข่าวโดย : Stepgeek.TV
ที่มา : Samsung
