Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดจากประเทศไต้หวันที่ยังคงผลิตชิปเซ็ต Apple A15 Bionic สำหรับ iPhone 13 Series ในเดือนสิงหาคม
โดยทางแหล่ง Supply Chain ได้อ้างว่า Apple ได้สั่งผลิตชิปเซ็ต Bionic A15 มากกว่า 100 ล้านชิ้นจาก TSMC ภายในปีนี้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า iPhone 13 Series ล็อตแรกจะวางขายเกินกว่า 100 ล้านเครื่อง ซึ่งก็ถือว่าสูงกว่า 95 ล้านเครื่องที่ทางด้านนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรก

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Debby Wu และ Mark Gurman จากสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า Apple เตรียมเพิ่มการผลิต iPhone 13 รุ่นใหม่ในปีนี้ให้เป็น 90 ล้านเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งก็เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไอโฟน 12 Series ที่ผลิตในจำนวน 75 ล้านเครื่อง
หลายคนก็ยังมีความคาดหวังกับการเปลี่ยนแปลงของ iPhone 13 Series ซึ่งก็มีทั้งข่าวลือและข่าวหลุดออกมาหลายฉบับซะเหลือเกิน บางสื่อก็วิเคราะห์คล้ายกัน บางสื่อก็กลับมีความคิดเห็นตรงกันข้าม
แต่ที่คาดการณ์กันไว้และมีข้อมูลที่เหมือนกันนั่นก็คือ iPhone 13 Series จะมีทั้งหมด 4 รุ่นที่มีขนาด 5.4 นิ้ว, 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว

ส่วนในรุ่น Pro และ Pro Max จะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED แบบ LTPO ที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 120Hz เพื่อจอที่เร็วขึ้นและลื่นขึ้น (สามารถรองรับการปรับอัตรารีเฟรชเรทได้ 1-120Hz ที่สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้นกว่าเดิม)
และตัวเครื่องของ iPhone 13 จะมีความหนากว่า iPhone 12 อย่างเห็นได้ชัด เพราะเนื่องจาก กล้องหลังได้รับการปรับปรุงและอัปเกรดกล้องครั้งใหญ่

โดยทุกรุ่นนั้นจะยังคงมีรอยบากเหมือนเดิม แต่ขนาดรอยบากนั้นจะเล็กลงและอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องก็ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ แถมยังมาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นในทุกโมเดลเลย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นจุดขายของ iPhone 13 Series
ชิปเซ็ต A15 Bionic นั้นจะมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม โดยใช้สถาปัตยกรรมการออกแบบคอร์ขนาดใหญ่ 2 คอร์และคอร์ขนาดเล็กอีก 4 คอร์ ซึ่งจะได้รับประสิทธิภาพดีกว่า 20% และประหยัดพลังงานมากกว่า 30% เมื่อเทียบขิป A14 Bionic ส่วน GPU ก็มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 35%