กลับมาพบกันอีกเช่นเคยกับสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากที่สุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งต้องบอกเลยว่าปีนี้เป็นปีที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเร่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อยู่หลายรุ่น บางค่ายก็สับรุ่นย่อยออกมาจนจำไม่ได้ว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน รวมถึงยังมาพร้อมกับราคาที่สุดแสนจะประหยัดและได้รับสเปกที่จัดเต็ม วันนี้ทีมงาน StepGeek.TV จะมาแนะนำ 8 สมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากที่สุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2020 โดย Xiaomi POCO M3 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากที่สุดแถมราคายังประหยัดอีกต่างหาก

Xiaomi POCO M3
เปิดตัวเพียงไม่กี่วัน POCO M3 ก็ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคซะแล้ว ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่โดดเด่น, หน้าจอขนาดใหญ่, กล้องหลังรูปทรงสี่เหลี่ยมและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ยัดมาให้ถึง 6,000 mAh
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 60Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3 หน้าจอทรงหยดน้ำสำหรับวางกล้องเซลฟี่ ที่ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ชิปเซ็ต Snapdragon 662 ขนาด 11 นาโนเมตร, RAM 4GB และ ROM 64GB/128GB

กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Depth Camera ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และแบตเตอรี่ขนาด 6,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์
สเปก POCO M3
- หน้าจอ IPS LCD ขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 60Hz หน้าจอทรงหนดน้ำ Waterdrop Design
- ชิปดเซ็ต Snapdragon 662 ของ Qualcomm ขนาด 11 นาโนเมตร
- RAM 4GB
- ROM 64GB/128GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Depth Camera ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างของตัวเครื่อง
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์
- มีทั้งหมด 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงินและสีเหลือง
Xiaomi Redmi Note 9 4G
Xiaomi Redmi Note 9 4G อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาและเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G ที่มีราคาที่ประหยัดที่สุดในซีรี่ส์นี้เลย มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 662, RAM 4GB/6GB/8GB, ROM 128GB/256GB แบบ UFS 2.2, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ซึ่งทาง Xiaomi ได้เคลมว่าแบตเตอรี่นั้นจะสามารถใช้งานได้นาน 2 วันครึ่ง

หน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ซึ่งก็มีลักษณะคล้ายกับรุ่น 5G ที่มีความละเอียด 1080p+ จอรีเฟรชเรท 60Hz และอัตราการสัมผัสของหน้าจออยู่ที่ 180Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3 หน้าจอทรงหยดน้ำสำหรับวางกล้องเซลฟี่ ที่ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และสามารถถ่ายวีดีโอที่มีความละเอียด 1080 พิกเซล ที่ 30fps
สเปก Redmi Note 9 4G
- ขนาดตัวเครื่อง 162.29 x 77.24 x 9.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 198 กรัม
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ให้ความละเอียด 1080p+ จอรีเฟรชเรท 60Hz และอัตราการสัมผัสของหน้าจออยู่ที่ 180Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3
- ชิปเซ็ต Snapdragon 662
- RAM 4GB/6GB/8GB
- ROM 128GB/256GB แบบ UFS 2.2
- กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ซึ่งทาง Xiaomi ได้เคลมว่าแบตเตอรี่นั้นจะสามารถใช้งานได้นาน 2 วันครึ่ง
- รองรับพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- มีทั้งหมด 4 สี ให้เลือก ได้แก่ สีเขียว, สีแดง, สีน้ำเงินและสีดำ
iPhone 12 Pro Max
iPhone 12 Pro Max เป็นรุ่นท็อปสุดของ iPhone 12 Series ที่ได้มีการอัปเกรดในเรื่องของดีไซน์ที่เปลี่ยนใหม่สวยบิ่งขึ้น พร้อมทั้งใช้กระจกหน้าจอแสดงผลแบบใหม่เป็นเซรามิกที่แข็งแรงกว่าเดิม 4 เท่า อีกทั้งยังใช้ชิปเซ็ต A14 Bionic อีกด้วย

ซึ่งรุ่น Pro Max นั้นจะมีการดีไซน์แบบเดียวกับน้องๆ แต่มีขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่กว่า พร้อมด้วยหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้นด้วยเช่นกันโดยมีขนาด 6.7 นิ้ว และใช้กระจกหน้าจอแบบใหม่ Ceramic Shield ซึ่งมีความแข็งแกร่งกว่าเดิม 4 เท่า ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีระบบชาร์จแบบใหม่ที่มีชื่อว่า MagSafe คือ วงแหวนแม่เหล็ก เพื่อใช้กับอุปกรณ์แบบใหม่ ยึดติดแท่นชาร์จไร้สายให้ไม่เลื่อนหลุดและแม่นยำมากขึ้น รวมถึงใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple สามารถใช้งาน MagSafe ผ่านเคสได้
สเปก iPhone 12 Pro Max
- ดีไซน์แบบกระจก ผสานอะลูมิเนียม น้ำหนัก 226 กรัม
- หน้าจอ OLED Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1
- กระจกหน้าจอแบบใหม่ Ceramic Shield
- ชิป Apple A14 Bionic
- ความจุ 128GB/256GB/512GB
- กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 12+12+12 ล้านพิกเซล โดยสามารถซูมได้ที่ 5x-12x, มี LiDAR Scanner มีระบบกันสั่นแบบ Gyro Sensor และรองรับ Dolby Vision
- บันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 60 fps
- บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 30 fps หรือ 60 fps
- บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 30 fps หรือ 60 fps
- บันทึกวิดีโอระดับ HD 720p ที่ 30 fps
- กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ iOS 14
- รองรับ 5G mmWave,Sub-6GHz
- มีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
- ระบบชาร์จเร็วแบบ 20 วัตต์
Xiaomi POCO X3 NFC
Xiaomi POCO X3 NFC นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับสเปกระดับไฮเอนด์ หน้าจอขนาดใหญ่ดูหนัง-เล่นเกมได้อย่างเต็มจอแน่นอน และถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นระดับกลางแต่ใช้ชิปแรงอย่าง Snapdragon 732G ของ Qualcomm รุ่นแรกของโลก ที่สามารถทำคะแนนไปกว่า 300,000 คะแนนเลยทีเดียว แถมยังเคลมอีกว่าเป็นชิปเซ็ตในตระกูล Snapdragon 700-Series ที่รองรับ 4G ที่แรงที่สุดอีกด้วย

และหลังจากที่เปิดตัวก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะด้วยการดีไซน์, สเปก, กล้องถ่ายภาพ รวมไปถึงราคาที่ลั่นออกมาว่าอย่างคุ้มค่ากับที่จ่ายไปเพียง 6,999 บาท เท่านั้นเอง ซึ่งในเรทราคานี้ชวนเสียเงินจริงๆ ต้องเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ
หน้าจอที่ดีไซน์แบบ DotDisplay ชนิด LCD ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) มีค่ารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 240Hz อัตราส่วนของจอ 20:9 Contrast ratio: 1,500:1 พร้อมด้วยรับรองแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland ทำให้หน้าจอนั้นเป็นมิตรต่อสายตาของเราในขณะที่เราเล่นเกมหรือดูหนัง และ HDR10 และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5

ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 732G ของ Qualcomm รุ่นแรกของโลก ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตรและกล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว ที่ โดยกล้องหลัก มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IMX682 ให้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89 + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,160 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์
สเปก POCO X3 NFC
- ขนาดตัวเครื่อง 165.3 x 76.8 x 9.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 215 กรัม
- หน้าจอที่ดีไซน์แบบ DotDisplay ชนิด LCD ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) มีค่ารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 240Hz อัตราส่วนของจอ 20:9 Contrast ratio: 1,500:1 พร้อมด้วยรับรองแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland และ HDR10 และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ต Snapdragon 732G ของ Qualcomm รุ่นแรกของโลก ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร
- GPU : Adreno 618
- RAM 6GB แบบ LPDDR4X
- ROM 64GB/128GB แบบ UFS 2.1 สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB
- กล้องหน้า ที่ให้ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว ที่วางเรียงอยู่ในทรงสี่เหลี่ยมเป็นแนวนอน และมีไฟแฟลช LED โดยกล้องหลัก มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IMX682 ให้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89 + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สามารถถ่ายภาพในระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 กล้องหลังสามารถถ่ายวีดีโอในระดับ 4K ด้วยอัตรา 30fps และรองรับโหมด Slow-motion ด้วยอัตรา 960fps ที่มีความละเอียด 720p
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,160 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ สามารถชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C
- รองรับสแกนลายนิ้วมือที่ถูกฝังอยู่ในปุ่ม Power ทางด้านขวามือของตัวเครื่อง
- รองรับสแกนใบหน้า AI Face Unlock
- ขนาดแบตเตอรี่ 5,160 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ โดยทาง POCO ได้เคลมว่า สามารถชาร์จเต็ม 100% ภายในระยะเวลา 65 นาทีเท่านั้นเอง
- รองรับ 4G LTE
- รองรับ Bluetooth 5.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2×2 MIMO
- มีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- พอร์ต USB-C
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12 สลับกับ POCO Phone
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP53
- มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเทา Shadow Gray และสีน้ำเงิน Cobalt Blue
Xiaomi Redmi Note 9 Pro
Redmi Note 9 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสัมผัสของหน้าจอ 240Hz หน้าจอเจาะรูตรงกึ่งกลางบนของหน้าจอสำหรับวางกล้องเซลฟี่ที่ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่องได้รับการปกป้องด้วยกระจก Gorilla Glass 5

ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 750G ของ Qualcomm และมีโมเด็ม X52 เหมือนกับชิป Snapdragon 765G, RAM 6GB/8GB, ROM 128GB/256GB แบบ UFS 2.2, แบตเตอรี่ขนาด 4,820 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ สามารถชาร์จเต็ม 100% ภายในระยะเวลา 58 นาที
กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Samsung HM2 + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้กว้าง 120 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 3 เท่า โดยไม่เสียรายละเอียดของภาพ

สเปก Redmi Note 9 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง 165.4 x 76.8 x 9.0 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 214.5 กรัม
- หน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ จอรีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสัมผัสของหน้าจอ 240Hz ด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่องได้รับการปกป้องด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ต Snapdragon 750G ขนาด 8 นาโนเมตร ความเร็ว 2.2GHz
- RAM 6GB/8GB
- ROM 128GB/256GB
- กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Samsung HM2 + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้กว้าง 120 องศา + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 3 เท่า โดยไม่เสียรายละเอียดของภาพ
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาด 4,820 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ สามารถชาร์จเต็ม 100% ภายในระยะเวลา 58 นาที
- รองรับ 5G
- รองรับ Wi-Fi
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12
- รองรับสแกนลายนิ้วมือด้านข้างของตัวเครื่อง
Samsung Galaxy A51
Samsung Galaxy A51 ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Infinity-O Display ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอแสดงผลที่ไร้รอยบาก ทำให้แสดงผลคอนเทนท์ต่างๆ ได้เต็มตา นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังเอาไว้ที่ใต้หน้าจออีกด้วย

ใช้ชิปเซ็ตที่ได้รับการอัปเกรดใหม่อย่าง Exynos 9611 ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดี และเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้งานบน Galaxy A50s โดยจากการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 187507 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 5 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 256 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 1076 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core
สเปก Samsung Galaxy A51
- ขนาดตัวเครื่อง 158.5×73.6×7.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 172 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Infinity-O Display ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว
- ชิปเซ็ต Exynos 9611
- RAM 6GB
- ROM 128GB และสามารถเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 1TB
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10
- กล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 + เลนส์ Ultra-Wide ให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับไฟแฟลช LED
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนนิ้วที่ใต้หน้าจอ และระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
- แบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15 วัตต์
- มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Prism Crush Black, Prism Crush Silver, Prism Crush Blue และ Prism Crush Pink
Samsung Galaxy A21s
Samsung Galaxy A21s เป็นรุ่นที่ได้รับการอัปเกรด โดยทาง Samsung นั้นมีความตั้งใจให้ผู้ใช้ตระกูล J-Series นั้นเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้นั่นเอง โดย Samsung Galaxy A21s มาพร้อมจุดเด่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลใหญ่เต็มตา, ดีไซน์สวย, สเปกเล่นลื่นๆ, และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มีชาร์จเร็ว ในราคาที่จับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น

สเปก Samsung Galaxy A21s
- ตัวเครื่องขนาด163.7×75.3×8.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 192 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ PLS TFT LCD Infinity-O Display ความละเอียด 1600×720 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว
- ชิปเซ็ต Exynos 850
- GPU : Mali-G52
- RAM 3GB
- ROM 32GB
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10
- กล้องหลังมีทั้งหมด 4 เลนส์ โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 + เลนส์ Ultra-Wide ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 123 องศา + เลนส์ Macro ที่ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 + เลนส์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และไฟแฟลช LED
- กล้องหน้า ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนนิ้วที่ด้านหลังตัวเครื่อง และระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
- แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 15 วัตต์
- มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Blue, สีดำ Black และสีขาว White
Samsung Galaxy A12
สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้รับการต่อยอดมาจาก Galaxy A11 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ได้รับการอัปเกรดกล้องและแบตเตอรี่ ซึ่งจากเดิมมีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 4,000 mAh แต่ตอนนี้ Galaxy A12 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 15 วัตต์
หน้าจอเป็นแบบทรงหยดน้ำขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+, ชิปเซ็ต Octa-core ที่คาดว่าจะใช้ชิป Helio P35, RAM 3GB/4GB/6GB, ROM 32GB/64GB/128GB สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 1TB

กล้องหน้า ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลและกล้องหลัง มีทั้งหมด 4 ตัว ที่จัดวางอยู่ในรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ด้านหลัง มาพร้อมกับไฟแฟลช LED โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-wide ให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล + เลนส์ Depth Camera ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + เลนส์ Macro ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 8 สมาร์ทโฟนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้หลายคนก็คงจะเห็นกันอยู่แล้วว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมา แถมยังมาพร้อมกับสเปกที่เรียกได้ว่าจัดเต็มจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ, ชิปเซ็ต, กล้องหลังและกล้องหน้า, แบตเตอรี่ที่ให้ทั้งความอึดและทน ที่สามารถใช้งานได้อย่างเพียงพอในแต่ละวัน รวมไปถึงราคาก็ประหยัดอีกต่างหาก ซึ่งก็เหมาะกับเศรษฐกิจ ณ ตอนนี้จริงๆ
นำเสนอข่าวโดย : StepGeek.TV
ที่มา : mi, samsung