ในปลายปีที่ผ่านมา Apple ได้ทำการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ออกมา 2 รุ่น ได้แก่ iPad Air รุ่นที่ 4 และ iPad รุ่นที่ 8 เชื่อได้เลยว่าตอนนี้หลายๆ คนก็มีความลังเลว่าจะซื้อรุ่นไหนมาใช้งานดี หากมีงบประมาณถึงทั้ง 2 รุ่น เราก็อยากจะแนะนำให้เลือก ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 มากกว่า วันนี้ทีมงาน StepGeek.TV ขอแนะนำ 5 เหตุผลที่น่าซื้อ ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 มากกว่า ไอแพด รุ่นที่ 8 แม้จะมีราคาแพงกว่า ซึ่งจะมีเหตุผลอะไรบ้างนั้น ไปดูกันครับ
หน้าจอแสดงผล iPad Air รุ่นที่ 4 ดีกว่า

ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 จะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย โดยมีขนาด 10.9 นิ้ว ส่วน ไอแพด รุ่นที่ 8 มีขนาดหน้าจอ 10.2 นิ้ว แต่ในเรื่องของคุณภาพหน้าจอ ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 จะมีคุณภาพที่ดีกว่า โดยเป็นหน้าจอ Liquid Retina ความละเอียด 2360 x 1640 ที่ 264 pp ส่วนของ ไอแพด รุ่นที่ 8 เป็นหน้าจอแบบ Retina ความละเอียด 2160 x 1620 ที่ 264 ppi แต่ทาง ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 จะเป็นจอภาพแบบ Full Lamination จอภาพขอบเขตสีกว้าง (P3) การแสดงผลแบบ True Tone และมีเคลือบสารกันแสงสะท้อนมาให้ ส่วน ไอแพด รุ่นที่ 8 นั้นไม่มี แต่ก็ไม่ใช่ว่าการแสดงผลสีจะเพี้ยน ก็ยังแสดงผลได้ดีอยู่
ขุมพลังที่แรงกว่า

ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A14 Bionic รุ่นใหม่ล่าสุดเร็วและแรงที่สุดของ Apple ในตอนนี้ ส่วน ไอแพด รุ่นที่ 8 นั้นใช้ชิปประมวลผล Apple A12 Bionic เป็นรุ่นเก่ากว่าถึง 2 รุ่น แต่ว่าด้านประสิทธิภาพก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ถ้าใครที่เน้นเล่นเกมหรือตัดต่อวิดีโอ ทำงานกราฟิกหนักๆ ยังไงชิปรุ่นใหม่ล่าสุดบน ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 ก็ดีกว่าอยู่แล้ว
iPad Air รุ่นที่ 4 รองรับพอร์ต USB-C

เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่คนทำงานน่าจะชื่นชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 นั้นมาพร้อมกับพอร์ต USB-C ซึ่งนอกเหนือจากการชาร์จและการโอนถ่ายข้อมูลเร็วขึ้นแล้วก็ยังทำให้การใช้งานหลากหลายมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับกล้องโดยตรง หรือจะเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟ ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ผ่านพอร์ต USB-C รวมถึงใช้ร่วมกับอุปกรณ์จำพวก USB-C Hub ที่เอาไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านพอร์ตต่างๆ ได้
มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นที่มากกว่า

ไอแพด รุ่นที่ 8 นั้นมีความจุเริ่มต้นที่ 32GB และสูงสุดที่ 128GB แต่ ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 นั้นมีความจุเริ่มต้นที่ 64GB และสูงสุดที่ 256GB หากมีแผนที่จะใช้งานกันยาวๆ และต้องมีการเก็บข้อมูลเยอะๆ ก็คงต้องเลือกรุ่นที่มีความจุเยอะหน่อย เพราะ iPad ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ แต่เรื่องความจุก็จะเป็นปัจจัยทำให้ราคาตัวเครื่องนั้นสูงตามไปด้วย แต่ข้อดีของ ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 อย่างที่กล่าวไปในหัวข้อที่แล้วว่า สามารถใช้งานกับ ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ผ่านพอร์ต USB-C ได้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการเก็บไฟล์ไปได้เยอะเลย
รองรับอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่กว่า

ถึงแม้ ไอแพด รุ่นที่ 8 จะรองรับการใช้งาน Apple Pencil และ Smart Keyboard แต่ก็ยังเป็นรุ่นแรกและแบบธรรมดา ส่วน ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 นั้นรองรับการใช้งาน Apple Pencil รุ่นที่ 2 ที่สามารถเก็บติดกับตัวเครื่องพร้อมกับชาร์จไร้สายไปในตัวได้เลย รวมถึงรองรับการใช้งาน Magic Keyboard ที่มาพร้อมแป้นคีย์บอร์ดและ Trakcpad ให้อารมณ์เหมือนกับใช้คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปกันเลยทีเดียว ซึ่งอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ก็ช่วยทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่มากขึ้นด้วย
และนี่ก็คือ 5 เหตุผลหลักๆ ที่เราอยากจะแนะนำ iPad Air รุ่นที่ 4 มากกว่า iPad รุ่นที่ 8 หากมีงบประมาณถึง แต่ถ้าใครที่มีงบประมาณไม่ถึง และมองว่าไม่ได้ใช้งานตัดต่อวิดีโอเยอะๆ ใช้แค่จดโน๊ต เล่นเกม เล่นโซเชียล ทั่วไป iPad รุ่นที่ 8 ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
เปรียบเทียบสเปก iPad Air รุ่นที่ 4 กับ iPad รุ่นที่ 8
iPad Air รุ่นที่ 4 | iPad รุ่นที่ 8 | |
หน้าจอ | จอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว เทคโนโลยี IPS ความละเอียด 2360 x 1640 ที่ 264 ppi ความสว่าง 500 นิต เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ จอภาพแบบ Full Lamination จอภาพขอบเขตสีกว้าง (P3) การแสดงผลแบบ True Tone Touch ID | จอภาพ Retina ขนาด 10.2 นิ้ว เทคโนโลยี IPS ความละเอียด 2160 x 1620 พิกเซล ที่ 264 ppi ความสว่าง 500 นิต เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ Touch ID |
ชิปประมวลผล | ชิป Apple A14 Bionic (Neural Engine) | ชิป Apple A12 Bionic (Neural Engine) |
ความจุ | ความจุ 64GB/256GB | ความจุ 32GB/128GB |
OS | ระบบปฏิบัติการ iPadOS 14 | ระบบปฏิบัติการ iPadOS 14 |
กล้อง | กล้องความละเอียด 12MP ออโต้โฟกัส รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 30 fps หรือ 60 fps กล้อง FaceTime HD 7MP | กล้องความละเอียด 8MP ออโต้โฟกัส รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 30 fps กล้อง FaceTime HD 1.2MP |
การเชื่อมต่อ | Wi‑Fi 6 (802.11a/b/g/n/ac/ax), 2.4GHz และ 5GHz, สองย่านความถี่พร้อมกัน, ความเร็วสูงสุด 1.2 Gbps เทคโนโลยี Bluetooth 5.0 | Wi‑Fi (802.11a/b/g/n/ac), 2.4GHz และ 5GHz, ความเร็วสูงสุด 866 Mbps เทคโนโลยี Bluetooth 4.2 |
ระบบเสียง | ลำโพงสเตอริโอ | ลำโพงสเตอริโอ |
อุปกรณ์เสริม | รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 Magic Keyboard Smart Keyboard Folio | รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 Smart Keyboard |
รุ่นและสี | มีให้เลือกที่รุ่น Wi-Fi กับ Wi-Fi + Cellular รุ่น Wi-Fi + Cellular รองรับ Nano‑SIM และ eSIM รองรับการโทรผ่าน Wi-Fi สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ สีโรสโกลด์ สีเขียว และสีสกายบลู | มีให้เลือกที่รุ่น Wi-Fi กับ Wi-Fi + Cellular รุ่น Wi-Fi + Cellular รองรับ Nano‑SIM และ eSIM รองรับการโทรผ่าน Wi-Fi สี เงิน, เทาสเปซเกรย์ และทอง |
อ่านรีวิว iPad ทั้ง 2 รุ่นได้ที่นี่